เชียงใหม่ - ตำรวจภาค 5 รวบหนุ่มเครือข่ายแก๊งสกิมเมอร์อินเดีย ดอดเปิดห้องพัก รร.กลางเมืองเชียงใหม่โคลนนิ่งบัตร-รูดเงินออก แลกส่วนแบ่ง 45% แค่ไม่กี่วันรูดแล้ว 60 รายการ
วันนี้ (29 มิ.ย.) ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) แถลงข่าวการจับกุมนายมูฮาหมัดอาชิค บูดีนซ่าราวเตอร์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ซ.สารภี 2 ถนนอิสรภาพ แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาเครือข่ายแก๊งสกิมเมอร์ปลอมแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์
พร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ เครื่องคัดลอกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัตรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้บันทึกข้อมูล เครื่องรูดบัตร ธนาคารกรุงเทพ ใบเสร็จธุรกรรมทางการเงิน
การจับกุมมีขึ้นหลัง ศปอส.ภ.5 ได้รับแจ้งจากสายสับว่ามีชายต้องสงสัยชาวต่างชาติมาติดต่อขอใช้ครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนมาก เชื่อว่าจะเป็นแก๊งสกิมเมอร์ชาวต่างชาติที่มาก่อเหตุในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนติตตาม พบเป็นชายต้องสงสัยคล้ายชาวต่างชาติ พักอยู่ที่โรงแรมไลฟ์แครนต์เชียงใหม่ สอบถามเบื้องต้นทราบว่าชายคนดังกล่าวได้ขนสิ่งของคล้ายเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์เข้าพัก และมักจะซื้อข้าวมากินในห้องโดยไม่ออกไปไหน ผิดวิสัยนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ
ต่อมาวันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.5 จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่โรงแรมฯ เข้าตรวจสอบห้องพัก พบชายชาวต่างชาติทราบชื่อภายหลังคือนายมูฮาหมัดอาชิค บูดีนช่าราวเตอร์ กำลังนั่งโคลนนิ่งบัตรและรูดเงินออกจากบัตร โดยมีคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และบัตรเครดิตอยู่จำนวนมาก วางไว้บริเวณบนโต๊ะภายในห้อง
จากการสอบถามนายมูฮาหมัดอาชิครับว่ามาพักที่ห้องดังกล่าวเพื่อโคลนนิ่งบัตรและรูดเงินออก
จากบัตรจริง โดยก่อนหน้านี้ได้รับการชักชวนจากนายอ้วน (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งเป็นเพื่อนของนายพิเชษฐ์ แก้วกลาง ให้มาทำงานเกี่ยวกับการรูดเงินจากบัตรที่ถูกสกิมเมอร์ที่เชียงใหม่ โดยจะได้รับค่าตอบแทนจำนวน 45 เปอร์เซ็นต์จากเงินที่สามารถรูดได้
โดยจะมีชายชาวอินเดียชื่อว่า Mr. Sriva Reeddy ส่งข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นลักษณะส่งเป็นตัวอักษรหรือตัวเลขพร้อมสัญลักษณ์ 36 หลัก มาให้ผ่านทางโปรแกรม What's app จากนั้นจะทำการคัดลอกหมายเลขดังกล่าวไปยังแอปพลิเคชัน MIR ในโทรศัพท์มือถือ แล้วใช้โทรศัพท์ดังกล่าวเชื่อมต่อไปยังครื่องคัดลอกข้อมูล เพื่อคัดลอกข้อมูลลงในบัตรที่เตรียมไว้ (โคลนนิ่งบัตร) ก่อนนำบัตรดังกล่าวไปรูดกับเครื่องรูดบัตรเครดิต
เมื่อทำรายการเสร็จสิ้นแล้วจะส่งบิลจากการทำรายการให้นายอ้วน และนายพิเชษฐ์ ดูก่อน เมื่อขึ้นเงินแล้วจะได้รับค่าตอบแทน 45 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงิน ซึ่งจะมีการโอนเงินส่วนแบ่งมาให้ แล้วตนก็จะส่งให้ M. Sha Reedd) ชาวอินเดีย ในรูปแบบของบิตคอยน์ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 5 เปอร์เซ็นต์จะเป็นค่าทำงานของตนเอง ซึ่งยังไม่ไต้รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด
ก่อนถูกจับกุม นายมูฮาหมัดอาชิคได้เดินทางมาที่เซียงใหม่เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. และได้รูดเงินออกจากบัตรแล้วทั้งหมด 60 รายการ ได้ยอดเงินรวม 39,900 บาท ผู้เสียหายส่วนมากเป็นชาวอเมริกัน และแคนาดา
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 ขอประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการป้องกันการถูกสกิมมิ่งข้อมูลจากบัตร ว่าให้สังเกตความผิดปกติของที่เสียบบัตรของเครื่องที่ใช้บริการ ก่อนที่จะเสียบบัตรจะต้องมีไฟกะพริบ หากไม่มีไฟกะพริบให้สงสัยไว้ก่อนว่ามีการติดเครื่องดูดข้อมูลไว้ ให้รีบแจ้งธนาคารโดยด่วน
สังเกตความผิดปกติของแป้นพิมพ์ เช่น แป้นพิมพ์อาจดูหนากว่าปกติ หากพบความผิดปกติห้ามเสียบบัตรเต็ดขาด, ระหว่างการใช้เครื่อง ATM ควรยืนประชิดกับตัวเครื่อง และใช้มือบังป้องแผงคีย์บอร์ดในขณะที่ใส่รหัสบัตรเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเห็น และป้องกันการบันทึกภาพ
