หนองคาย - เปิดแล้ว สวนอินทผลัมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ อ.สระใคร จ.หนองคาย เผยทนายความเจ้าของสวนผันตัวเอาดีด้านเกษตร ทุ่มปลูกอินทผลัม 20 ไร่ 350 ต้น ปลูกมา 3 ปีได้ผลผลิตเต็มร้อย ผลดก รสชาติดี เปิดให้ท่องเที่ยว พร้อมขายออนไลน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดหนองคาย, นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน ได้ร่วมกันเปิดสวนอินทผลัมของนายวิทยา กลางรักษ์ ณ บ้านนาไหม ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย ซึ่งเป็นสวนอินทผลัมที่ประสบผลสำเร็จ ได้ผลผลิตสูง เป็นที่ต้องการของตลาด
นายวิทยา กลางรักษ์ ทนายความในจังหวัดหนองคายที่หันมาปลูกอินทผลัม กล่าวว่า หลังจากที่ยางพาราราคาตกต่ำต่อเนื่องจึงคิดหาพืชชนิดอื่นปลูกเพื่อให้มีรายได้ทดแทน ประกอบกับมีเพื่อนปลูกอินทผลัมที่ จ.กาญจนบุรี เลยติดต่อข้อมูลและตัดสินใจปลูกอินทผลัมบนพื้นที่ 20 ไร่ ใช้อินทผลัมพันธุ์บาฮีเนื้อเยื่อ สั่งจากแล็บในประเทศอังกฤษมาปลูก ทั้งหมด 350 ต้น ปลูกมาแล้ว 3 ปี
ผลปรากฎว่าปีนี้สามารถเก็บผลผลิตได้ทั้งหมดทุกต้น ซึ่งอินทผลัมเป็นพืชที่เหมาะกับภาคอีสาน เพราะชอบอากาศร้อน ที่สำคัญต้องให้น้ำทุก 3 วัน และให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ ระมัดระวังศัตรูพืชที่สำคัญคือมดคันไฟ และเพลี้ย หากบำรุงรักษาดีอย่างสม่ำเสมอ อินทผลัม 1 ต้นจะมีอายุยืนถึง 80 ปี สามารถเก็บผลผลิตได้ปีละครั้ง เฉลี่ยอินทผลัม 1 ต้นจะขายผลได้ต้นละ 16,000 บาท
อินทผลัมที่ปลูกไว้แต่ละต้นจะมีประมาณ 8-10 ทะลาย ทะลายละประมาณ 3-6 กิโลกรัม ซึ่งตัดขายทั้งแบบยกทะลาย กก.ละ 400 บาท หรือขายเป็น กก.ละ 450 บาท หลังจากเปิดเป็นสวนเกษตรเชิงท่องเที่ยวแล้ว ได้มีเพื่อนมาเที่ยว ถ่ายรูปลงโซเชียล จึงเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ทำให้แต่ละวันมีคนมาเที่ยวที่สวนอย่างต่อเนื่อง สามารถขายผลผลิตได้ทุกวัน มียอดจองอินทผลัมแล้วจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ที่สวนยังปลูกทุเรียน และมะยงชิดเสริมกันไว้ด้วย
ด้านนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดีที่มีภาคเอกชนตั้งใจทำการเกษตรและเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สำหรับผู้ที่สนใจจะปลูกหรือศึกษาหาความรู้ สามารถมาเรียนรู้ได้ และจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดูว่าสามารถสนับสนุนในเรื่องใดได้บ้าง ซึ่งอินทผลัมเป็นพืชเศรษฐกิจที่เหมาะจะปลูกในพื้นที่จังหวัดหนองคาย