ลำปาง - เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านบ้านปงถ้ำ อำเภอวังเหนือ หลังน้ำป่าทะลักท่วมแบบไม่ทันตั้งตัว ขนของหนีน้ำไม่ทันทรัพย์สินเสียหายหนัก เร่งสูบน้ำออกจากบ้านเรือน ฉีดล้างโคลนเลนระบุครั้งนี้รุนแรงสุดในรอบ 50ปี
หลังจากกลางดึกของคืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดเหตุน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในตำบลวังเหนือ ตำบลวังทอง ตำบลวังทรายคำ จังหวัดลำปาง โดยที่บ้านปงถ้ำ หมู่ที่3 และ หมู่ที่7 ตำบลวังทอง น้ำป่าไหลลงสู่ลำห้วยแม่แสดจำนวนมากทำให้น้ำล้นลำห้วยทะลักขึ้นมาท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ติดกับลำห้วยอย่างรวดเร็ว จนชาวบ้านเก็บของและทรัพย์สินอื่นๆไม่ทัน ทำให้ทรัพย์สินที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน และบ้านที่ปลูกแบบชั้นเดียวถูกน้ำทะลักไหลท่วมและบางส่วนพัดเอาทรัพย์สินไปกับกระแสน้ำ ทำให้ชาวบ้านบางคนถึงกับร้องไห้เพราะทรัพย์สินเสียหายจำนวนมากรวมถึงข้าวที่บรรจุไว้ในกระสอบก็ถูกน้ำท่วมเสียหายด้วย
ตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ทางผู้นำหมู่บ้านพร้อมด้วยชาวบ้านได้ร่วมกันสำรวจความเสียหาย ซึ่งมีรั้วบ้าน ทรัพย์สินภายในบ้านเสียหาย นอกจากนี้ได้เร่งช่วยสูบน้ำขังออกจากบ้านเรือนของชาวบ้าน ฉีดล้างโคลนเลน จากนั้นนายอำเภอวังเหนือ ปลัดอำเภอวังเหนือ นายก อบต.วังทอง พร้อมเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย อบต.วังทอง เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดลำปาง สาขาวังเหนือ หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ได้นำรถบรรทุกน้ำ และรถไถพรวนดิน มาสนับสนุนทำความสะอาดในหมู่บ้าน พร้อมเร่งสำรวจความเสียหาย ประมาณ 60 หลังคาเรือน
นายเสน่ห์ ซองดี ผู้ใหญ่บ้านปงถ้ำ หมู่ 3 เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเที่ยงคืนกว่าได้เกิดฝนตกหนักกระหน่ำลงมานานร่วมชั่วโมง ซึ่งในหมู่บ้านจะติดตั้งสัญญาณเตือนภัยไว้ แต่เนื่องจากฝนตกหนักและเสียงดังทำให้ไม่ได้ยินเสียงเตือนภัยได้ชัดเจน เมื่อช่วงเวลา 01.00 น. น้ำป่าก็ได้หลากเข้าในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านที่หลับนอนอยู่จึงไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินได้ทัน เพราะน้ำไหลมาแรงและมาเร็วมาก อยู่ประมาณ 20 นาทีน้ำก็ได้ลดระดับลงเรื่อยๆ จึงได้ช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินที่พอเคลื่อนย้ายได้ และร่วมกันเฝ้าระวังตลอดทั้งคืน
ทั้งนี้เดิมบ้านปงถ้ำเป็นหมู่บ้านต้นน้ำ เมื่อมีฝนตกจะเกิดน้ำหลากเป็นประจำ แต่ไม่ได้รับความเสียหายมาก แต่ในครั้งนี้น้ำมารุนแรงและรวดเร็ว ถือว่าในรอบ 50 ปีก็ว่าได้ที่ไม่เคยเกิดรุนแรงขนาดนี้ หลังจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาในพื้นที่แห้งแล้งอย่างมาก ช่วงนี้จึงต้องแจ้งเตือนให้ชาวบ้านเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะในพื้นที่ขณะนี้ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด
ทั้งนี้ในบางพื้นที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ชาวบ้านใช้ได้เนื่องจาก สายไฟเกิดชำรุดเสียหายซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้การแก้ไขซึ่งคาดว่าช่วงเวลา 18.00 น.ของวันนี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ชาวบ้านใช้ได้ตามปกติ ต่อไป
