ท้าวแชร์แก่งคอยมอบตัวแล้ว ผู้เสียหายมารอดูหน้าแน่นโรงพัก จี้ใช้กฎหมาย ปปง.ยึดทรัพย์มาจ่ายคืน

สระบุรี - ผบช.ภ.1 แถลงข่าวท้าวแชร์แก่งคอยมอบตัว มีผู้เสียหายมารอดูหน้าแน่น พร้อมเผยเตรียมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปปง. ธนาคารต่างๆ เพื่อบังคับใช้กฎหมายฟอกเงินเพื่อนำทรัพย์สินกลับคืนมาให้ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด

จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา ได้มี น.ส.รสสุคนธ์ เพชรรัตน์ ผู้เสียหายพร้อมพวกได้พากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย ว่า พวกตนได้ถูก น.ส.ชวัลลักษณ์ ศรีวิเศษ บ้านอยู่ ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย อ้างว่าเป็นท้าวแชร์ประกาศทางเฟซบุ๊กเมื่อราวต้นปี 2563 ชักชวนให้ร่วมเล่นแชร์โดยการตั้งกลุ่มไลน์ หลายกลุ่ม ใช้ชื่อกลุ่มแตกต่างกันไป มีสมาชิกในกลุ่มประมาณ 100-250 ราย

ออกอุบายว่ามีการซื้อขายแชร์ระหว่างกันขึ้น ในชั้นต้นให้ผลตอบแทนสูง แต่ไปๆ มาๆ ไม่สามารถนำเงินมาคืนให้ลูกแชร์ได้ และหลบหนีไปในที่สุด บรรดาลูกแชร์จึงทยอยกันเข้าแจ้งความ สรุปรวมมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 65 ราย มูลค่าความเสียหาย 24 ล้านบาทเศษ คงเหลือผู้เสียหายที่ร่วมวงเล่นแชร์ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีก 125 คน

ล่าสุด เย็นวันนี้ (26 มิ.ย.) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงศ์ พล.ต.ต.ชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.สระบุรี และ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงษ์สิริ ผกก.สภ.แก่งคอย ร่วมกันแถลงข่าว กรณีคดี “ฉ้อโกงประชาชน” ด้วยการหลอกลวงให้เล่นแชร์ โดย น.ส.ชวัลลักษณ์ ศรีวิเศษ อายุ 33 ปี เท้าแชร์ที่หลบหนีได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย

โดยที่หน้าห้อง ผกก.สภ.แก่งคอย พนักงานสอบสวน ได้คุมตัว น.ส.ชวัลลักษณ์ ศรีวิเศษ มาให้ ผบช.ภ.1 สอบสวนปากคำด้วยตนเองอยู่ครู่หนึ่ง เสร็จแล้วรีบนำตัวไปสอบสวนต่อโดยไม่ยินยอมให้พบหน้ากับผู้เสียหาย

จากนั้น พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า คดีฉ้อโกงดังกล่าวนี้ผู้ต้องหารับว่าได้มีการประกาศชักชวนให้ร่วมเล่นแชร์ทางเฟซบุ๊กจริง แต่จำนวนเงินยังคลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน ขณะนี้พนักงานสอบสวนจะทำทุกทางเพื่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ปปง. ธนาคารต่างๆ เพื่อบังคับใช้กฎหมายฟอกเงินเพื่อนำทรัพย์สินกลับคืนมาให้ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่าง ผบช.ภ.1 กำลังแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอยู่นั้น บรรดาผู้เสียหาย งส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี ต่างพากันตะโกนสวนขึ้นมาด้วยเสียงดังพร้อมกันว่า “ขอดูหน้า” เท้าแชร์หน่อย แต่ ผบช.ภ.1 เพียงได้แต่ยิ้ม และกล่าวเบาๆ ว่า ไม่ได้ ทราบดีว่าทุกคนคิดอะไรอยู่ พร้อมกำชับให้ พนักงานสอบสวนเร่งทำคดีให้ดีที่สุดเพื่อนำเงินมาคืนให้แก่ผู้เสียหาย

พร้อมกันนั้น ได้กล่าวกับผู้เสียหายอีกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันสืบเสาะว่า ผู้ต้องหามีทรัพย์สินสิ่งใดซุกซ่อนไว้ที่ไหนขอให้บอกมา เพื่อจะได้ใช้กฎหมายติดตามกลับคืนมา เพราะเท่าที่ตรวจสอบทรัพย์สินที่พนักงานสอบสวนติดตามยึดมาได้มีเพียงสมุดบัญชีธนาคารหลายเล่ม แต่แทบไม่มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเลย นอกนั้นเป็นรถจักรยานยนต์ ตู้เย็น ทรัพย์สินเพียงเท่านี้เทียบกันไม่ได้เลยกับยอดเงินที่ผู้เสียหายถูกฉ้อโกงไป