กาญจนบุรี - ศาล จ.กาญจน์ เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 คดีหวย 30 ล้านอลเวง เหตุรันเลขในเอกสารสำนวนไม่ตรง นัดตรวจใหม่ 30 มิ.ย.ส่วนการนัดอ่านรอบใหม่ยังไม่มีกำหนด
ความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ระหว่างนายปรีชา ใครครวญ หรือครูปรีชา (โจทก์) กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ (จำเลย)
มูลเหตุของคดีสืบเนื่องจาก ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี นำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ ไปขึ้นเงินที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล ด้วยการนำเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขากาญจนบุรี เป็นเงิน จำนวน 30 ล้านบาท หลังจากหักภาษีแล้วเหลือเงิน จำนวน 29,850,000 ล้านบาท โดยหมวดจรูญ ได้เบิกเงินออกมาจากธนาคาร จำนวน 5,500,000 บาท ยังคงเหลือเงินอยู่ในบัญชีธนาคารอีก จำนวน 24,350,000 บาท
ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคดีแพ่ง เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ พ.1230/2560 ในข้อหาละเมิดลาภมิควรได้ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้มีหนังสือถึงธนาคารกรุงไทย ให้ทำการอายัดเงินในบัญชีของ ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งคงเหลือในบัญชี จำนวน 24,350,000 บาท เอาไว้ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.2560 นอกจากนี้ นายปรีชา ยังได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อทำการอายัดเงินในบัญชีของ ร.ต.ท.จรูญ อีกครั้งหนึ่ง โดยศาลจังหวัดกาญจนบุรี คดีแพ่ง ได้นัดให้ทั้งคู่ไปพบเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 12 ก.พ.61
นอกจากคดีแพ่งแล้ว ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ยังถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ ฟ้องคดีอาญาอีก 1 คดี ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร คดีอาญาจึงถือว่าเป็นคดีหลัก ศาลจึงจำหน่ายคดีแพ่ง เพื่อรอฟังคำพิพากษาในคดีอาญา และในวันที่ 4 มิ.ย.62 ศาลชั้นต้นจังหวัดกาญจนบุรีได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล
หลังจากศาลยกฟ้องคดีดังกล่าว ครูปรีชา ได้มอบหมายให้นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว ยื่นอุทธรณ์คดีเมื่อวันที่ 16 ต.ค.62 ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดคู่กรณีมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในวันนี้ 25 มิ.ย.63 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เดินทางมาที่ศาลตั้งแต่ก่อนเวลา 09.00 น.
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (25 มิ.ย.) ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นายอาคม คงสวัสดิ์ นายวิรุฬห์ชล วารวงค์ พร้อมทีมทนายความ รวมทั้งนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาหมวดจรูญ ได้ออกมาจากบัลลังก์ เพื่อมาพบสื่อที่รอทำข่าวอยู่ที่หน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรี
โดยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความส่วนตัวของหมวดจรูญ ได้เปิดเผยว่า วันนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ออกไปก่อน สาเหตุเป็นเพราะว่าศาลอุทธรณ์ได้ส่งคำสั่งมาว่าให้ตรวจเอกสารก่อนเนื่องจากมันแตกต่างกัน แต่มันไม่ใช่สาระสำคัญอะไร
คือมันมีเอกสารหนึ่งชุดที่เป็นของตำรวจ ซึ่งอันที่จริงแล้วมันมีแค่ 280 แผ่น แต่ว่าตอนรันเลขเข้าใจว่าเอกสารมันเยอะ และวันนั้นสืบพยานกันจนมืด อาจจะทำให้คนรันเลขอาจจะมึนงง จึงรันเลขเอกสารไปมากถึง 300 กว่า แต่ศาลอุทธรณ์ท่านได้ตรวจอย่างละเอียด ท่านจึงเอะใจว่าทำไม้เอกสารที่รันเลขมีมากกว่า 300 แผ่น แต่นับจริงๆ แล้วได้เพียงแค่ 200 กว่าแผ่น ท่านจึงให้ลงมาสอบใหม่ในประเด็นนี้ มันจึงเป็นที่มาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ให้ทั้งสองฝ่ายคือทั้งฝ่ายของครูปรีชา และฝ่ายเราไปเอาหลักฐานทั้งหมดมา ซึ่งครั้งแรกเราก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ซึ่งท่านได้ให้ไปเอาเอกสารสำนวนมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเอกสารหมาย จ. และ หมาย ร. รวมทั้งคำเบิกความ ซึ่งเราก็ได้ไปยกมาเป็นกล่อง จากนั้นศาลท่านก็ได้คัดเอาเฉพาะเอกสารที่มีปัญหาออกมา เมื่อตรวจสอบแล้วก็ครบจำนวน 280 แผ่น เพียงแต่ว่าเพื่อความสบายใจของครูปรีชาด้วย เพราะว่าวันนี้ทนายความของครูปรีชา ไม่ได้เดินทางมาด้วย
ถามว่าเมื่อมีการเลื่อนจะมีผลกระทบต่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ ทนายตั้มตอบว่า ไม่มีผลกระทบแต่เพียงแค่ว่าศาลท่านต้องการรันเลขหมายในเอกสารให้ถูกต้องเท่านั้นเอง ซึ่งถามใจตัวผม ผมก็อยากให้รู้ผลในวันนี้เลยว่าตกลงมันเป็นอย่างไรกันแน่ แต่เมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้เราก็ต้องรับสภาพ แต่ถ้าถามว่าหนักใจในเรื่องคดีหรือไม่ ซึ่งตัวผมมีความมั่นใจอยู่แล้ว แต่เพียงแค่อยากให้ผลคดีออกมาให้ทุกคนทราบในวันนี้เท่านั้นเอง
ถามว่าศาลนัดมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 7 ครั้งใหม่อีกเมื่อไหร่ ทนายตั้มตอบว่า บอกตามตรงว่าตอนนี้ยังไม่มีวันกำหนด และในวันนี้ทางทนายความของครูปรีชาไม่ได้เดินทางมาด้วย ซึ่งจะได้มีการสำนวนอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 30 มิ.ย.แต่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร หลังจากวันที่ 30 มิ.ย. ศาลจังหวัดกาญจนบุรีท่านก็จะส่งสำนวนกลับไปที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เพื่อให้พิจารณา ซึ่งตนเชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน เพียงแต่ให้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดนิดหน่อยเท่านั้นเอง อาจจะใช้เวลาไม่กี่เดือน แต่สิ่งที่ทำให้เสียเวลาก็คือเสียเวลาในเรื่องของการส่งหมาย
ถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะทำให้ทั้งสองฝ่ายมีใครได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่ ทนายตั้มตอบว่า ไม่มีเพราะมันเป็นเรื่องเล็กน้อย จะไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ทนายตั้ม กล่าว
ด้านหมวดจรูญ วิมูล กล่าวว่า อันที่จริงแล้วก็อยากจะฟังผลในวันนี้เลย ถามว่ากังวลใจหรือไม่ ส่วนตัวผมมีความเชื่อศาลอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมีการคิดในใจบ้างอยู่แล้ว ถ้าไม่คิดอะไรในใจมันก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็ยังเชื่อใจศาลท่านอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เผื่อใจไว้บ้างหรือไม่เผื่อศาลกลับคำพิพากษา หมวดจรูญตอบว่า ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย และจริงแล้วศาลท่านน่าจะรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนผิด และใครเป็นคนถูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่นานนักนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ก็เดินทางออกมาจากภายในศาล ซึ่งสื่อมวลชนได้สอบถามว่า ศาลเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาออกไป รู้สึกหนักใจหรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า ไม่หนักใจ เหมือนเดิม เพราะความจริงก็คือความจริง ส่วนการที่ศาลเลื่อนก็เพราะต้องการตรวจสอบเอกสารเพียงเล็กน้อย
ถามว่าการที่ทนายความไม่มาด้วยรู้สึกหนักใจหรือไม่ ครูปรีชา ตอบว่า ไม่หนักใจ เพราะมาศาลเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ในวันนี้ขอไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องคดีเพราะอยู่ในชั้นพิจารณาของศาล สิ่งไหนที่พูดได้ก็จะพูด สิ่งไหนไม่พูดได้ก็จะไม่พูด ซึ่งอยากจะฝากไปถึงแฟนคลับที่คอยเชียร์และให้กำลังใจครูมาโดยตลอด และขอให้ทุกคนปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ทุกคน
