จันทบุรี - ชาวเมืองจันท์ร่วมอนุโมทนาบุญผู้ว่าราชการจังหวัด หลังประกาศลาออกจากราชการเพื่อขอบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ทดแทนบุญคุณบุพการี พร้อมศึกษาพระธรรมควบคู่ เผยเลือกลาออกก่อนเกษียณอายุแม้เหลือเวลาอีกเพียง 3 เดือน เพราะต้องการให้ทันช่วงเข้าพรรษา ด้านรองผู้ว่าฯ ขึ้นรักษาราฃการแทน
วันนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เปิดเผยความในใจต่อที่ประชุมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ตนเองได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการเพื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา หลังเหลือเวลาทำงานอีก 3 เดือนก่อนเกษียณอายุราชการ ซึ่งหลังการเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวทำให้ผู้ที่เข้าร่วมประชุมพากันตกใจกับข่าวที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น
เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบันเป็นที่รักทั้งของประชาชนในพื้นที่ และหน่วยงานต่างๆ
โดยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การลาบวชนั้นข้าราชการสามารถขอลาได้ตามสิทธิ แต่ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ขอลาออกก่อนเกษียณอายุราชการเพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ขึ้นมาทำหน้าที่แทนตนเองที่รับราชการมาถึง 36 ปี และได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นเวลา 4 ปี 3 เดือน และถือเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลำดับที่ 42 ของทำเนียบผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี
ขณะที่ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดใจอีกว่า สาเหตุที่ต้องลาออกจากราชการก่อนกำหนดเพราะไม่ต้องการพะว้าพะวงกับเรื่องของการทำงานที่ตั้งใจไว้ว่าจะปล่อยวาง และไม่อยากให้มีงานที่ติดค้าง จึงขอลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุด้วยความสบายใจ เพราะตั้งใจจะเข้าศึกษาพระธรรมวินัยด้วยการอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
เบื้องต้น ได้กำหนดว่าจะบวชอย่างเรียบง่าย ที่วัดบวรนิเวศวิหาร (พระอารามหลวง) กรุงเทพมหานคร หลังได้รับความเมตตาจาก สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต เป็นพระอุปัชาย์ จากนั้นจะเดินทางมาจำพรรษาที่วัดเขาสอยดาวเหนือ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยตามที่ได้มุ่งมั่นปรารถนา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเดือน ก.พ.2561 ที่ผ่านมา นายวิทูรัช ศรีนาม ได้เคยแสดงความรับผิดชอบด้วยการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังเกิดข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เมื่อมีการจัดประชุม ครม.สัญจรใน จ.จันทบุรี แต่กระทรวงมหาดไทย เห็นว่าเป็นความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจ จึงขอให้รับราชการต่อและไม่อนุมัติให้ลาออก
แต่การขอลาออกจากราชการในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจที่จะได้บวชทดแทนบุญคุณบุพการีและบรรพบุรุษตามประเพณีไทย ซึ่ง นายวิทูรัช ศรีนาม เกรงว่าหากรอเกษียณอายุราชการก็จะไม่ทันช่วงเข้าพรรษา โดยเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เตรียมที่จะลาออกจากราชการ แต่เนื่องจากติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงจำเป็นต้องอยู่บัญชาการสถานการณ์จนคลี่คลาย เนื่องจากไม่อยากให้เป็นภาระของบรรดาข้าราชการชั้นผู้น้อย
โดยตลอดชีวิตราชการที่ผ่านมา นายวิทูรัช ศรีนาม ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เป็นแบบอย่างที่ดีของข้าราชการและประชาชนที่รู้จัก ไม่ถือยศ อำนาจ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนเป็นที่ตั้ง
และภายหลังจากที่นายวิทูรัช ศรีนาม ลาออกจากราชการในวันที่ 1 ก.ค.นี้แล้ว คาดว่า นายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี จะรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีและปฏิบัติหน้าที่ราชการต่อจนเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.2563
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ข่าวการลาออกจากราชการเพื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กระจายออกไป ทำให้หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชนที่ทราบข่าวต่างปลาบปลื้มและร่วมอนุโมทนาบุญในความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวที่ยอมสละตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างไม่ยึดติด เพื่อปฏิบัติหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยความเลื่อมใสศรัทธาต่อไป