พี่ชาย “ปูนิ่ม” ให้อภัยผัวตำรวจโหด ไฟเขียวขอขมาศพครั้งสุดท้าย

กาฬสินธุ์ - พี่ชายน้องปูนิ่มไม่ปิดกั้นให้รองสว.สืบสวนวังทองหลางมาขอขมาศพน้องสาวครั้งสุดท้าย เผยส่วนตัวอโหสิกรรมให้เพราะต้องการให้น้องสาวไปสู่สวรรค์โดยไม่มีเรื่องต้องห่วงและไม่มีเวรกรรมต่อกันอีก


วันนี้ (23 มิ.ย. 63) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานศพ นางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือน้องปูนิ่ม อายุ 29 ปี ที่เสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิ กรุงเทพฯ หลังถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .45 มม.เข้าที่บริเวณศีรษะจนเสียชีวิต ซึ่งได้นำร่างผู้เสียชีวิตกลับบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ณ บ้านเลขที่ 63 หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ เป็น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีกำหนดการฌาปนกิจศพในวันที่ 25 มิถุนายนนี้

บรรยากาศงานศพวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ยังอยู่ในความโศกเศร้า เนื่องจากอยู่ในช่วงกลางวัน อีกทั้งนางทองใส ภูคงน้ำ อายุ 56 ปี แม่ของนางสาวพิมชฎาพร และญาติๆ ส่วนใหญ่เดินทางไปกรุงเทพมหานครเพื่อไปทำธุระ มีเพียงนายกชกิตต์พัฒน์ ภูแย้มไสย์ อายุ 33 ปี พี่ชายน้องปูนิ่ม และเพื่อนบ้านที่กำลังช่วยกันจัดเตรียมข้าวของและเตรียมประกอบอาหารเลี้ยงแขกที่จะมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมคืนที่สองในช่วงเย็นวันนี้




นายกชกิตต์พัฒน์กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานางทองใส และญาติๆ หลายคนได้เดินทางไปที่กรุงเทพฯ เพื่อไปทำธุระ และเย็นวันนี้จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมคืนที่สอง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก ร.ต.อ.ทรงกลด สามีน้องสาว หรือญาติที่จะมาร่วมงานศพ หรือมาขอขมา แต่หากทาง ร.ต.อ.ทรงกลด และญาติจะมาร่วมหรือจะมาขมาศพน้องสาวตนก็ยินดีไม่มีปัญหาอะไร เพราะส่วนตัวนั้นตนขออโหสิกรรมให้ เพราะอยากให้น้องสาวจากไปโดยไม่มีเรื่องต้องห่วง จะได้ไม่มีเวรมีกรรมต่อกันอีก ส่วนแม่หรือญาติคนอื่นตนไม่รู้ว่าคิดอย่างไร




ขณะนี้ครอบครัวก็รู้สึกโล่งใจผ่อนคลายและเริ่มทำใจได้บ้างแล้วที่ ร.ต.อ.ทรงกลด ผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ ส่วนเรื่องคดีต้องปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ตำรวจ เป็นไปตามกฎหมาย แต่อยากให้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และได้รับโทษสูงสุด ไม่ใช่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ซึ่งโทษจะต่างกัน เพราะส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุจนปืนลั่น แต่อาจจะเกิดจากการจงใจเอาปืนมาเล็งที่หัวจนยิงกระสุนออกไปถูกศีรษะน้องสาวจนเสียชีวิตก็เป็นได้