ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้าน ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย แห่เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.บางสะพานน้อย หลังไม่สามารถถอนเงินจากสถาบันการเงินชุมชนบ้านทรายทองได้ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท ด้านทางสถาบันฯ แจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ยักยอกเงินไปหมดแล้ว
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายธีรวุฒิ ไกรยะถา อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 11 ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนางอำพันธ์ คงคา อายุ 85 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ทรายทอง เดินทางมาพร้อมกับชาวบ้านจำนวนกว่า 50 คน ซึ่งทุกคนได้รับความเดือดร้อนจากการที่ชาวบ้านใน 11 หมู่บ้าน ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำการฝากเงินไว้กับสถาบันการเงินซึ่งตั้งอยู่ในที่ทำการ อบต.ทรายทอง
โดยใช้ชื่อว่า "สถาบันการเงินชุมชนตำบลทรายทอง" ซึ่งมีการเปิดรับฝากเงินมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ต่อมาในระยะหลังช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านที่ไปเบิกเงินกับเจ้าหน้าที่ในสถาบันฯ แต่กลับได้รับการบ่ายเบี่ยงนัดให้มาเอาเงินในวันหลัง แต่เมื่อกลับไปทวงถามก็มักจะได้รับการบ่ายเบี่ยง จนต่อมาทราบว่า ทางสถาบันฯ ไม่มีเงินจ่ายแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ของสถาบันฯ ยักยอกเงินไป และในเวลาต่อมาได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางสะพานน้อย ก็ได้รับคำตอบว่าเงินไม่มีแล้ว จะให้ไปเอาเงินที่ไหนมาให้
จนกระทั่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากแต่ละคนมีเงินฝากที่อยู่ในบัญชีที่สถาบันการเงินฯ แห่งนี้ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน บางรายมีเงินอยู่ในบัญชีเงินฝากเกือบ 1 ล้านบาท แต่ไม่สามารถเบิกเงินที่ฝากไว้มาใช้ได้ ยิ่งช่วงไวรัสโควิด-19 ซึ่งต้องการใช้เงินก็ไม่สามารถเบิกได้
โดย 3 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่มีเงินให้เบิก มาถึงวันนี้ชาวบ้านไม่รู้จะทำอย่างไรจึงร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนให้รับทราบ และพากันเดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพานน้อย เพื่อให้ช่วยดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินชุมชนตำบลทรายทอง ที่เอาเงินของประชาชนไป นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านอีกหลายหมู่บ้านที่เดือดร้อนจากสถาบันการเงินแห่งนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือและจัดการแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านด้วย
นายธีรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตนเองฝากเงินที่สถาบันการเงินชุมชนตำบลทรายทอง มีเงินอยู่ในบัญชี 2 แสนบาท ก็เบิกไม่ได้ มีการผลัดวันอยู่เป็นประจำ และระยะหลังสถานบันการเงินก็ปิด สาเหตุที่มาฝากที่นี่ เนื่องจากทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบางสะพานน้อย ให้มาฝากที่สถาบันการเงินแห่งนี้ เนื่องจากเห็นว่าใกล้บ้านตนเองเชื่อว่าทุกคนตอนนี้อยากได้เงินคืน
ขณะเดียวกัน นายสัญญวิชย์ ยาฉ่ำ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 9 ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ใช้น้ำประปาหมู่ที่ 9 ต.ทรายทอง ได้ทำการฝากเงินไว้กับสถาบันการเงินชุมชนตำบลทรายทอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ฝากเงินไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยมีเงินฝากจนถึงปัจจุบันเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท ซึ่งไม่สามารถไปเบิกเงินมาทำการซ่อมแซมเกี่ยวกับระบบประปาของหมู่บ้าน
วันนี้จึงเดินทางมาแจ้งความ และเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชาวบ้านที่มีเอกสารมีความพร้อมเข้าทำการแจ้งความ และยังมีอีกจำนวนมากที่ยังมีเอกสารไม่ครบ จะมาแจ้งความในวันต่อไป เบื้องต้น ที่มีการพูดคุยสอบถามกับชาวบ้านแต่ละคนพบมีความเสียหายไม่น่าจะต่ำกว่า 12 ล้านบาท
นางอำพันธ์ คงคา อายุ 85 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ยายฝากเงินอยู่ที่สถาบันการเงินแห่งนี้มานานถึง 10 ปีแล้ว เวลาขายพืชผลทางการเกษตรจะนำเงินมาฝากเก็บไว้ใช้ในช่วงจำเป็น รวมทั้งเงินผู้สูงอายุก็ฝากไว้ในบัญชีนี้มีกว่า 1 แสนบาท
พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน ผกก.สภ.บางสะพานน้อย ได้พบกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมสอบถามข้อมูลกับชาวบ้าน และทำความเข้าใจชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบถึงการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ในวันนี้ว่าผู้ที่จะเข้าแจ้งความต้องนำสมุดบัญชีฝากเงินทั้งตัวจริง ถ่ายเอกสารทุกหน้า รวมทั้งสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านมายื่นต่อ พ.ต.ท.จรินทร์ ด้วงเอียด พนักงานสอบสวน สภ.บางสะพานน้อย เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนต้องใช้เวลาในการรับเรื่องและสอบปากคำชาวบ้านที่เดือดร้อนทุกคน ซึ่งชาวบ้านคนไหนที่พร้อมก็แจ้งความได้เลย
นอกจากนั้นแล้ว พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน ผกก.สภ.บางสะพานน้อย ยังได้กล่าวว่าเนื่องจากพนักงานสอบสวนมีน้อย ดังนั้นตนเองจะต้องลงมาทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน เพื่อรับเรื่องสอบปากคำชาวบ้าน และรับแจ้งความ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเสียเวลาคอยนาน และหากยังมีประชาชนที่เสียหายก็สามารถนำหลักฐานมาแจ้งความพนักงานสอบสวนในวันต่อไปได้ โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
เนื่องจากทราบมาว่า ชาวบ้านบางส่วนเกิดความกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ ขณะนี้พนักงานสอบสวนต้องสอบปากคำชาวบ้านที่เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเนื่องจากผู้เสียหายเยอะ จึงยังไม่สามารถระบุผู้กระทำความผิดและร่วมกันกระทำความผิดว่ามีใครบ้าง ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำต่อไป และหากมีพยานหลักฐานพบการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยก่อนหน้านี้ นายประนอม สุขเจริญ อดีตกำนันตำบลทรายทอง ปัจจุบันเป็นประธานสถาบันการเงินชุมชนตำบลทรายทอง ได้เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพานน้อย กล่าวหาว่า น.ส.ศิริวรรณ หรือเบียร์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็น เจ้าหน้าที่การเงิน เป็นผู้มีหน้ารับฝากเบิกถอน ว่าเป็นผู้ยักยอกเงินจากสถาบันการเงินไป โดยมีประชาชนผู้เสียหายประมาณ 400 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท