ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หนุ่มพ่อค้าทุเรียนเชียงใหม่เปิดใจโพสต์คลิปแฉโดนโกงตราชั่ง ซื้อลองกองจากแม่ค้าย่านตลาดวโรรส สงสัยน้ำหนักขาดตั้งแต่ตอนรับถุง ข้ามถนนไปขอชั่งอีกร้านเจอหายจริง 2 ขีด ชี้เงินไม่กี่บาทแต่ยอมไม่ได้เพราะทำคนค้าขายเสียชื่อ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วานนี้ (14 มิ.ย. 63) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “นายตัวโอ เชียงใหม่” ได้โพสต์คลิปพร้อมบอกเล่าประสบการณ์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “แฉ เชียงใหม่” เพื่อเตือนภัยและเป็นอุทาหรณ์ โดยบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เจ้าของโพสต์ได้ซื้อลองกองจากแม่ค้ารายหนึ่งที่ตั้งแผงขายที่ตลาดวโรรส ในตัวเมืองเชียงใหม่ ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งเมื่อแม่ค้าส่งถุงลองกองให้แล้วเชื่อว่าจะมีน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม เมื่อพยายามจะทวงถามปรากฏว่าแม่ค้ามีท่าทางไม่พอใจ จึงได้เดินข้ามถนนไปขอชั่งที่ร้านผลไม้ที่อยู่ที่ฟากหนึ่งพบว่าน้ำหนักขาดไป 2 ขีด ซึ่งโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ช่วงนี้ผลไม้ออกเยอะ แม่ค้าขายแข่งตัดราคากัน โลซาวบาท (ป้ายเบ้อเริ่ม) ตราชั่งเขา 1 กิโลกรัมก็จริง พอเดินข้ามถนนมาสงสัยลองกองโดนลม หายไป 2 ขีด ภายในไม่ถึง 2 นาที (ปื้นสะพานลอยฝั่งตังใต้ กาดใหญ่) คนขายโพกหัวตวย” ทั้งนี้ปรากฏว่าโพสต์ดังกล่าวนี้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นและแชร์ต่อไปจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตำหนิการกระทำของแม่ค้าและบางส่วนบอกเล่าว่าเคยเจอเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้ด้วย
วันนี้ (15 มิ.ย. 63) จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “นายตัวโอ เชียงใหม่” คือ นายจรัญ สาลิกา อายุ 37 ปี อาชีพพ่อค้าทุเรียนและผลไม้ย่านนิมมานฯ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 63 เวลาประมาณ 11.00 น. ตนอยากกินเมี่ยงคำจึงตั้งใจจะไปซื้อในตลาดวโรรส แต่เดินผ่านร้านขายลองกองแล้วได้ยินเสียงแม่ค้าเชิญชวนให้ซื้อพร้อมบอกว่าราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งตนทราบแล้วว่าเป็นลองกองร่วงที่ไม่ได้เป็นพวง จึงนึกอยากซื้อกลับไปกินที่บ้านด้วย และตกลงซื้อจำนวน 1 กิโลกรัม แต่เมื่อแม่ค้ายื่นถุงให้ ด้วยประสบการณ์จากการขายทุเรียนทำให้เชื่อว่าน้ำหนักน่าจะขาด จึงพูดออกไปว่า “แค่นี้เหรอ” ซึ่งแม่ค้าแสดงท่าทางไม่พอใจ ตนจึงเดินข้ามถนนไปขอชั่งกับตราชั่งของร้านผลไม้อีกเจ้าหนึ่งพบว่าน้ำหนักขาดไป 2 ขีด
สำหรับเจตนาของการนำคลิปและเรื่องราวไปโพสต์นั้น ยืนยันว่าไม่มีความโกรธแค้นส่วนตัวและไม่เคยรู้จักกับแม่ค้ารายนี้มาก่อน เพียงต้องการเตือนภัยและเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้บริโภคเท่านั้นว่าเวลาที่จะไปซื้อของควรระมัดระวัง แม้ว่ามูลค่าอาจจะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อรวมกันแล้วหลายๆ รายก็ถือว่าเป็นจำนวนที่มาก และที่สำคัญทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นที่ค้าขายอย่างซื่อสัตย์สุจริต และทำลายชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ จึงไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก เพราะตนทำอาชีพค้าขายเหมือนกัน