xs
xsm
sm
md
lg

ยายร้องถูกเพื่อนบ้านขู่เอาเงินค่าลงทะเบียนเยียวยา 5,000 อีกฝ่ายโต้ลูกชายขอให้ช่วย ตกลงให้เดือนละ 500

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - ดรามา ยายบุรีรัมย์วัย 69 ปี ร้องถูกเพื่อนบ้านขู่เอาเงินค่าลงทะเบียนเงินเยียวยา 5,000 บาท ตามมาตรการช่วยผู้ประสบภัยโควิด-19 ด้านหญิงเพื่อนบ้านโต้ไม่ได้ขู่เอาเงิน พร้อมแจงลูกชายยายมาขอให้ช่วยและตกลงจะจ่ายสินน้ำใจให้เดือนละ 500 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเทียม โจดรัมย์ อายุ 69 ปี ชาวตำบลบ้านยาง อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือว่ากำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากถูกเพื่อนบ้านข่มขู่จะเอาเงินค่าที่ช่วยลงทะเบียนรับเงินเยียวยาจากมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิดของรัฐบาลเดือนละ 5,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน โดยจะต้องจ่ายให้วัยรุ่นคนดังกล่าวเดือนละ 500 บาท ซึ่งจ่ายไปแล้ว 2 เดือน 1,000 บาท ยังเหลืออีก 1 เดือน 500 บาท ซึ่งนางเทียมบอกว่าอีก 1 เดือน 500 บาทจะไม่ยอมจ่ายให้แล้ว เพราะจำเป็นต้องใช้เงินซื้อข้าวปลาอาหารกินประทังชีวิต เพราะปัจจุบันตนอาศัยเพียงเบี้ยยังชีพคนชรา บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซื้อข้าวปลาอาหารกิน ส่วนลูกชายรับจ้างกินไปวันๆ เท่านั้น แต่จู่ๆ พอได้เงินเยียวยามา กลับจะมาเรียกเอาเงินค่าลงทะเบียนเดือนละ 500 บาท

นางเทียม โจดรัมย์ อายุ 69 ปี ผู้ร้อง
แต่พอเพื่อนข้างบ้านคนดังกล่าวทราบว่าตนเองจะไม่ให้เงินที่เหลือ จึงไม่พอใจทั้งใช้คำพูดและไปโพสต์ข่มขู่ในโซเชียลมีเดียด้วยว่า “ถ้าไม่จ่ายระวังโดนนะอีแก่” ก็รู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตนเองอายุมากแล้ว จากกรณีดังกล่าวแม้จะไม่พอใจและกลัวเพราะถูกข่มขู่ แต่ตนไม่ได้จะเอาเรื่องอะไรเพราะเห็นว่าเป็นลูกหลานบ้านใกล้เรือนเคียงกัน แค่ไม่อยากให้มาบังคับเอาเงินเท่านั้น

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าขู่บังคับเอาเงินเยียวยาของนางเทียม คือ น.ส.นิตยา ต้นโลม อายุ 32 ปี ซึ่งอยู่บ้านกับสามีและลูกน้อยอีก 3 คน บอกว่า ตนอยู่บ้านหลังติดกันกับนางเทียม ยืนยันว่าตนไม่ได้ขู่บังคับหรือเรียกร้องเอาเงินจากนางเทียมตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมชี้แจงว่าเงินเยียวยาก็ไม่ได้เป็นของนางเทียมผู้เป็นแม่ แต่เป็นเงินเยียวยาของนายปุ๊ลูกชาย เนื่องจากเมื่อประมาณวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา นายปุ๊ลูกชายของนางเทียมซึ่งคุ้นเคยกันดีเพราะอยู่บ้านติดกัน มาขอให้ตนช่วยลงทะเบียนรับเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาทให้เพราะทำไม่เป็น ซึ่งตอนนั้นตนนั่งอยู่กับเพื่อน 4-5 คน ตนตอบไปว่าขนาดตนเองยังลงไม่ผ่านเพราะระบบแจ้งว่าเป็นเกษตรกร ทั้งที่ไม่ได้เป็นเกษตรกร


ตนจึงบอกว่าจะช่วยลงให้ หากลงผ่านจะให้ค่าสินน้ำใจเดือนละ 500 บาท ตลอด 3 เดือน ซึ่งนายปุ๊ตอบตกลง จากนั้นตนใช้โทรศัพท์ของตนลงทะเบียนให้ ทั้งพาไปเปิดบัญชี สมัครพร้อมเพย์ที่ธนาคารด้วยเพราะนายปุ๊ทำไม่เป็น ตนต้องคอยตรวจสอบเป็นระยะว่าผ่านหรือไม่ และลงทะเบียนให้นายปุ๊ถึง 4 รอบเพราะไม่ผ่านต้องยื่นอุทธรณ์ ซึ่งโทรศัพท์และค่าอินเทอร์เน็ตก็เป็นของตนเองทั้งหมด

กระทั่งลงทะเบียนผ่านและได้รับเงินเยียวยา โดย 2 เดือนแรกนายปุ๊นำเงินมาให้ตนจริง 1,000 บาท แต่กลับไม่ยอมไปอธิบายให้แม่ตัวเองฟัง ปล่อยให้เข้าใจผิดและมาต่อว่าตนแบบเสียหาย และยืนยันว่าตนไม่เคยไปข่มขู่ตามที่ถูกกล่าวหา แค่โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อระบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น และอยากให้นางเทียมพูดความจริงด้วย

ส่วนที่แม่นายปุ๊บอกว่าจะไม่ให้เงินเดือนที่ 3 อีก 500 บาทนั้น ตนคงไปบังคับไม่ได้ ถือว่าเขาไม่ทำตามที่รับปากไว้ แต่รู้สึกเสียใจที่ช่วยทำให้แล้วกลับมาถูกกล่าวหาแบบนี้ ทั้งที่ครอบครัวตัวเองก็เดือดร้อนเหมือนกัน มีสามีคนเดียวที่ได้รับเงินเยียวยา จึงขอความเห็นใจบ้าง

น.ส.นิตยา ต้นโลม อายุ 32 ปี ผู้ถูกร้อง






กำลังโหลดความคิดเห็น