xs
xsm
sm
md
lg

ช้ำใจ!! ช้างป่าบุกกัดกินทุเรียนป่าละอูเสียหายหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวสวนป่าละอู เดือดร้อนหนัก ทุเรียนพันธุ์หมอนทองป่าละอู อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวผลผลิตสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ถูกช้างป่าหลายตัวบุกเข้ามาเขย่าต้นให้ลูกทุเรียนหล่นลงมากว่า 1,000 ลูก สูญรายได้กว่า 4-5 แสนบาท วอนภาครัฐเร่งแก้ปัญหาช้างป่าอย่างจริงจัง

วันนี้ (10 มิ.ย.) นายศิวกภณ รตนรุ่งเรือง และนายธีรพงษ์ ตีระศรี 2 พ่อลูกชาวสวน หมู่ 3 บ้านป่าละอูบน ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พานางสุนันทา พิมพ์ไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิทย์ มณีวงษ์ ผู้บังคับกองร้อย กองกำกับการ 1 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูสภาพความเสียหายของทุเรียนพันธุ์หมอนทองป่าละอูที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของผู้ที่ชื่นชอบบริโภค

ทุเรียนแต่ละต้นที่ปลูกในสวน ป.ป่าละอู แห่งนี้มีอายุตั้งแต่ 7-10 ปี ขึ้นไป ปลูกไว้ 30 ไร่ ซึ่ง 2 พ่อลูกชาวสวน กล่าวว่า กลางดึกที่ผ่านมาถูกช้างป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่อาศัยหากินอยู่บริเวณป่าแถบนี้ บุกเข้ามาใช้งวงทั้งดึงรูดกิ่งที่มีทุเรียน และเขย่าต้นทำให้ลูกทุเรียนที่กำลังใกล้เก็บเกี่ยว ร่วงกระจายตกลงมาอยู่ใต้ต้น ในหลายจุดรวมแล้วกว่า 1,000 ลูก มีทั้งทุเรียนที่อ่อน และใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิต ส่วนหนึ่งถูกช้างฉีกกินไปแล้วก็มี บางส่วนถูกช้างเหยียบจมลงในดินก็มี นอกจากนั้นยังพบร่องรอยเท้าช้างขนาดใหญ่กระจายในสวนทุเรียนซึ่งคาดว่าเป็นช้างขนาดใหญ่

“ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุเรียนแก่จัดและเริ่มมีการตัดทุกวัน เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าแล้ว บางส่วนจะเก็บผลผลิตได้อีก 1-2 สัปดาห์ก็มี ดังนั้น ช่วงนี้จึงมานอนเฝ้าสวนทุกคืน โดยขึ้นไปอยู่บนเพิงพักเหมือนลักษณะบ้านบนต้นไม้ มีความสูงประมาณ 6-7 เมตร ซึ่งปลูกอยู่กลางสวนเพื่อความปลอดภัย เพื่อคอยเฝ้าช้างป่าและสามารถมองเห็นสวนได้รอบ รวมทั้งมีการขึงลวดติดสัญญาณไซเรนอยู่โดยรอบ ซึ่งหากช้างเข้ามาสัญญาณก็จะดังขึ้นก็จะทำให้รู้ว่ามีช้างป่าเข้ามา”

ทั้งพ่อและลูกที่เฝ้าสวน กล่าวว่า หลังจากตัดทุเรียนเสร็จในช่วงเย็นแล้วกลับเข้าที่พักรับประทานอาหาร เสร็จแล้วกลับเข้าสวนมาในช่วงหัวค่ำ พบว่า มีช้างป่าเข้ามาในสวนแล้ว และตอนนั้นพบว่ามีทุเรียนร่วงหล่นลงมาแล้ว จากนั้นได้ขึ้นไปบนเพิงพักด้านบนเพื่อนอนเฝ้า กระทั่งกลางดึกเสียงไซเรนดังขึ้น และพบช้างขนาดใหญ่ 4-5 ตัว ชนลวดสัญญาณจนขาด เข้ามาใช้งวงรูดกิ่งที่มีทุเรียน และใช้งวงเขย่าต้นทุเรียน พยายามจุดลูกโป่งไล่ช้างหมดไปเกือบ 100 ลูก จนช้างป่ากลับออกไป

พวกเราต้องสูญรายได้ไปประมาณ 4-5 แสน เนื่องจากทุเรียนกิโลกรัมละ 200 บาท หน้าสวน หากลงไปขายในตัวเมืองกิโลกรัมละ 250 บาท แต่ละลูกที่ร่วงลงมามีตั้งแต่ 2- กิโลกรัม/1 ลูก รวมแล้วประมาณ 1,000 ลูก เบื้องต้น อยากให้ทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องช่วยจัดเจ้าหน้าที่มาตระเวนตรวจตราตามสวนทุเรียนในพื้นที่ป่าละอู ในช่วงที่ทุเรียนเริ่มแก่จัด นอกจากการตระเวนไล่ช้างบนถนนทางเข้าหมู่บ้านป่าละอู-น้ำตกป่าละอู

อย่างไรก็ตาม นายศิวกภณ รตนรุ่งเรือง และนายธีรพงษ์ ตีระศรี 2 พ่อลูก พร้อมคนงานได้ช่วยกันเร่งซ่อมแซมลวดสัญญาณไซเรนที่ได้รับความเสียหายเพราะหวั่นว่าช้างป่าจะกลับเข้ามาสร้างความเสียหายอีก อีกทั้งยังมีทุเรียนที่เริ่มจะแก่แต่ละต้นอีกเป็นจำนวนมากที่รอการเก็บเกี่ยวผลผลิตเพราะหากปล่อยให้ช้างป่าเข้ามาได้อีกจะส่งผลเสียหายอย่างหนัก

ด้าน นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ กล่าวยอมรับว่า เป็นปัญหาที่ซ้ำซาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลที่ทุเรียนป่าละอูมีผลผลิตเก็บเกี่ยวออกสู่ตลาด ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม พยามแก้ไขปัญหาทั้งการจัดสร้างแนวรั้วกันช้างกึ่งถาวรรอบพื้นที่หมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ แต่ก็ยังได้เพียงไม่กี่กิโลเมตร โดยเฉพาะหมู่บ้านนี้ที่ช้างป่าเข้ามายังไม่มีแนวรั้วกั้น ดังนั้น จึงขอให้เจ้าของสวนแต่ละแห่งต้องช่วยกันดูแลสวนของตนเองด้วย และรู้สึกเห็นใจเกษตรกรชาวสวนป่าละอูที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า

เบื้องต้น ทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าแก่งกระจานที่บุกเข้ามาสร้างความเสียหาย เดิมความเสียหายจ่ายชดเชยไร่ละ 1,600 บาท แต่ปัจจุบันมีการแก้ไขหากต้นทุเรียนมีอายุ 5 ปีขึ้นไป มีผลผลิตทาง อบต.จ่ายให้ต้นละ 1,600 บาท












กำลังโหลดความคิดเห็น