ราชบุรี - ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดราชบุรี ประชุมพร้อมตั้งชุดสืบสวน หาเบาะแสคนร้ายคดีชิงทองพร้อมเพิ่มรอบตรวจตราเพิ่มขึ้น
วันนี้ (25 พ.ค.) พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งของ ภ.จว.ราชบุรี และชุดสืบสวนสภ.เมืองราชบุรี เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำ จำนวน 11 เส้นๆ ละ 1 บาท ภายในร้านทองจิราวรรณ (เยาวราช) ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 48/9 ถนนเพชรเกษมสายเก่า สี่แยกต้นสำโรง ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี บอกว่าในวันนี้ได้เรียกประชุมในส่วนของ สภ.เมืองราชบุรี และสืบสวน จ.ราชบุรี เพื่อแบ่งงานความรับผิดชอบให้แต่ละหน่วยได้ไปดำเนินการ ทั้งการตรวจสอบร้านทองต่างๆ ในพื้นที่ว่ามีใครนำทองไปขายในช่วงนี้บ้าง ในส่วนของการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีนั้นก็ขยายเพิ่มพื้นที่ออกไปอีก ซึ่งเริ่มมีความชัดเจนขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังไม่ขอพูดอะไรในตอนนี้เพราะอาจจะมีผลต่อรูปคดี
ในส่วนของทางร้าน ทางสมาคมผู้ประกอบการร้านทองนั้นได้มีมาตรการอยู่แล้วในระดับหนึ่งซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทางร้านทองนั้นได้มีการประสานกันตลอดมา โดยทางสมาคมร้านทองจะปิดร้านในวันอาทิตย์ และจะเปิดขายในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ แต่ในส่วนของร้านทองที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้เข้าร่วมกับสมาคมร้านทอง ซึ่งเราก็จะเพิ่มความเข้มขึ้น โดยจะเชิญทางสมาคมผู้ประกอบการร้านทองมาร่วมพูดคุยในเรื่องของมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยในอีกระดับหนึ่ง ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น จะขอความร่วมมือกับทางสมาคมร้านทองเพิ่มความเข้ม
ทั้งเรื่องของประตูปิดเปิดอัตโนมัติ กล้องวงจรปิด ที่ดูคนมาซื้อของในร้านนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ คงจะต้องเพิ่มกล้องที่ส่องออกไปบริเวณถนนหน้าร้านเพื่อดูว่าลูกค้านั้นใช้รถอะไร รวมลูกรงภายในร้านซึ่งจะขอให้ทางสมาคมได้เพิ่มความเข้มในเรื่องนี้ และแนวทางในการสังเกตลูกค้าที่เข้ามาซื้อทอง และการปฏิบัติของพนักงานขาย แต่ในส่วนของตำรวจ จะต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจของสายตรวจ ทั้งสายตรวจรถจักรยานยนต์ จราจรและสายสืบ ให้มีความเข้มมากขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี เผยว่า ความเข้มของการตรวจธนาคารร้านทองจริงๆ เรื่องนี้ ทางผู้บังคับบัญชาโดย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เน้นย้ำมาตลอด ส่วนกรณีนี้เหตุเกิดวันอาทิตย์ ซึ่งปกติทั่วไปคือร้านทองจะปิด เมื่อมันเกิดเหตุช่วงที่ส่วนใหญ่เขาหยุด แต่บางร้านไม่หยุดเดี๋ยวเราจะทำความเข้าใจนโยบายของท่านผู้การ จะเชิญร้านทองมาประชุมหารือ และแนวทางการป้องกันต่างๆ ที่เราจะเตรียมไว้ตามมาตรการที่ได้กำหนดไว้ ตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการ ตามแผนประทุษกรรมที่เราได้สร้างมา ต้องทำความเข้าใจกับทางร้านทอง
และที่สำคัญที่สุด พนักงานขายต้องสร้างความเข้าใจให้เขา เพราะจากเหตุที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งที่พนักงานขายอาจไม่เข้าใจการป้องกันตัวที่ดี เป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการ ส่วนตำรวจสายตรวจเราได้กำชับไปแล้ว เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจมากกว่าเดิมเท่าตัว ซึ่งไม่ใช่เพราะเกิดเหตุ ปกติวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เราเพิ่มไปแล้วตั้งแต่ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการมา แต่เมื่อมันมีเหตุเกิดขึ้นเราจึงคุมเข้มการตรวจของธนาคารร้านทองให้มากขึ้นอีก
ส่วนที่ร้านทองที่ถูกก่อเหตุนั้นยังคงเปิดขายตามปกติ แต่มีพนักงานมายืนที่หน้าร้านเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยสอดส่องดูแลลูกค้า และยังคงมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการเหมือนปกติ