ลำปาง – ถอยดีกว่า..บริษัทจำหน่ายเครื่องวัดอุณหภูมิสู้โควิด คืนเงิน อสม.ลำปาง เต็มจำนวนทั้ง 43 ชุมชนที่พร้อมใจขอคืนของถ้วนหน้า แต่ปฎิเสธรับเครื่องคืน ขณะที่ อสม.บางส่วนเดินหน้าขอคืนวัสดุที่เหลือ หลังพบราคาสูงเกินจริง
ความคืบหน้าโครงการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันโรคและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกองทุนส่งเสริมสุขภาพ เทศบาลนครลำปาง ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สปสช. โดยเทศบาลนครลำปางเป็นผู้ประสานงานสั่งซื้อวัสดุ-อุปกรณ์ทั้งหมดแทนชุมชน และทำพิธีมอบให้แก่ 43 ชุมชนไปเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา
แต่ปรากฏว่าวัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่ราคาสูงกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรด นอกจากจะถูกวิจารณ์ว่าราคาสูงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัวแล้ว เมื่อ อสม.ชุมชนนำไปใช้งานจริง พบว่าใช้งานไม่ได้และบางแห่งใช้งานวัดอุณหภูมิได้เพียง 1-2 คน ต้องนำเครื่องไปแช่ถังน้ำแข็งเพราะเครื่องร้อน error ไม่ยอมอ่านค่า ทำให้ อสม.บางชุมชนที่ต้องการใช้เครื่องทำงานแต่ใช้งานไม่ได้ออกมาร้องเรียนสื่อมวลชนจนกลายเป็ฯข่าวที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง กระทั่งมีหน่วยงานต่างๆเข้าตรวจสอบ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าวในเวลาต่อมา
ล่าสุด อสม.ชุมชนเมืองลำปาง รายงานว่า หลังจากทางบริษัทผู้จำหน่ายเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรด ได้นัดหมายเมื่อ 19 พ.ค.ให้ อสม.นำเครื่องมาคืนและจะคืนเงินให้ครบตามจำนวน คือ 3,900 บาทต่อเครื่องต่อชุมชน ณ วัดศรีบุญโยง ในเวลา 10.30 น.วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา
ปรากฎว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายมี อสม.จำนวน 41 ชุมชน จากทั้งหมด 43 ชุมชน พร้อมใจกันนำเครื่องวัดอุณหภูมิที่ได้รับมอบมาคืนให้บริษัทดังกล่าว และรับเงินคืนอย่างพร้อมเพรียง มีเพียง 2 ชุมชนที่ร้องเรียนไม่ได้เดินทางมารับแต่ทางบริษัทได้นัดคืนเงินให้ภายหลัง
แม้ว่าก่อนหน้านี้มี อสม.เพียง 3-4 ชุมชนที่ออกมาระบุว่าเครื่องใช้งานไม่ได้และต้องการคืน ส่วน อสม.ชุมชนอื่นๆ บอกว่ายังใช้งานได้ แต่เวลาใช้งานจริงจะใช้เครื่องวัดยี่ห้อ/ชนิดอื่นมาแทนโดยไม่ยอมปริปากบ่น
อย่างไรก็ตามที่น่าใจคือ บริษัทยอมคืนเงินเต็มจำนวน ชุมชนละ 3,900 บาท แต่พอ อสม.จะนำเครื่องคืน ทางบริษัทกลับปฎิเสธไมไม่รับคืนโดยบอกว่า..ขอบริจาคเพราะไม่รู้จะเอาไปทำอะไร
แหล่งข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เริ่มมี อสม.บางชุมชน ได้ทำหนังสือถึงนายกเทศมนตรีนครลำปาง ในฐานะประธานกองทุนฯ เพื่อขอคืนวัสดุอุปกรณ์รายการอื่นๆที่ได้รับมอบไปก่อนหน้านี้ หลังจากตรวจสอบราคาทั้งหมดจากเอกสารที่รับมอบแล้วพบว่าราคาสูงเกินจริงเกือบทุกรายการและบางรายการจนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับของด้วย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา นายกิตติภูมิ นามวงศ์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง ในฐานะประธานกองทุนส่งเสริมสุขภาพเทศบาลนครลำปาง ได้นำวัสดุอุปกรณ์จำนวน 11 รายการ มอบให้กับ อสม.และประธานชุมชน รวม 43 ชุมชนในเขตเทศบาลนครลำปาง เพื่อนำไปใช้ในศูนย์เฝ้าระวังและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(covid-19)ระดับชุมชน ภายใต้โครงการ “เฝ้าระวังและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน 2563
ประกอบด้วย 1.เครื่องพ่นสารเคมีจำนวนหนึ่งเครื่องๆละ 3,600 บาท 2.ชุดพ่นสารเคมีเสื้อกันฝนจำนวน 10 ชุดๆละ 240 บาท 3.น้ำยาฆ่าเชื้อโรคขนาดแกลลอน 5000 ซีซี จำนวน 2 แกลลอนๆละ 4,300 บาท 4.แว่นตาป้องกันสารเคมีจำนวนหกชิ้นๆละ 200 บาท 5.หน้ากากอันนำไมสำหรับทีมพ่นเอ็นเก้าห้าจำนวน 20 ชิ้นๆละ 31 บาท
6. รองเท้าบู๊ทจำนวนหกคู่ๆละ 160 บาท 7.ถุงมือยางอย่างดีจำนวนหกคู่ๆละ 110 บาท 8.หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคจำนวน 10 กล่องๆละ 150 บาท 9.แอลกอฮอล์เจลล้างมือขนาด 450 ซีซีจำนวน 10 ขวดๆละ 250 บาท 10.เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดจำนวนหนึ่งเครื่องๆละ 3,900 บาท 11. ป้ายไวนิลโครงการจำนวนหนึ่งพื้นขนาด3ตารางเมตรๆละ 120 บาท
ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ดังกล่าวทั้งหมด ใช้งบประมาณจากกองทุนส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดซื้อให้ชุมชน รวมชุมชนละ 28,000 บาท โดยได้มีการแบ่งซื้อวัสดุอุปกรณ์รวม 11 รายการ เป็นเงิน 26,300 บาท และอีก 1,700 บาท เป็นค่าน้ำมันและบริหารจัดการภายในศูนย์ฯ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1.2 ล้านบาท
หลังจากส่งมอบ และ อสม.นำไปใช้งานในบางรายการ อาทิ เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรด ซึ่งไม่ปรากฎยี่ห้อ และเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่มีจำหน่ายในท้องตลาดชนิดเดียวกันซึ่งเป็นสเป็คจีนแดง ราคาถูกสุดไม่ถึง 600 บาท และหากเป็นชนิดเดียวแต่ระบุยี่ห้อราคาแพงสุดคือ 1,560 บาทเท่านั้น