ตาก - ฝ่ายความมั่นคงทั้ง อส. ผญบ. ชรบ. พร้อมตำรวจ ทหาร จับชาวโรฮิงญาลอบเข้าเมืองซุกพงหญ้าติดอาคารพาณิชย์ชายแดนแม่สอดนับสิบ หนีได้ 4 พบมีนายหน้าไทย-พม่าชวนหนีจากรัฐยะไข่ผ่านไทยไปมาเลย์ รีดเงินหัวละแสน ซ่อนตัวรอ 2 วันถึงเวลานัดกลับถูกลอยแพ
เช้ามืดวันนี้ (20 พ.ค.) นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้สั่งการกองร้อย อส.แม่สอด ที่ 3 ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน พร้อม ชรบ.หมู่ 2 บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด สนธิกำลังตำรวจ ทหารออกเดินเท้าลาดตระเวนแนวชายแดนไทย-พม่า เมื่อเดินเท้าตรวจถึงบริเวณใกล้ตลาดริมเมย ติดกับด่านถาวรแม่สอดที่ 1 ใกล้กับโนแมนแลนด์กลางน้ำเมย เจ้าหน้าที่พบความผิดปกติและมีเสียงสุนัขเห่าบริเวณพงหญ้าติดกับอาคารพาณิชย์ใกล้ๆ กับด่านฯ ห่างจากพรมแดนราว 150 เมตร จึงเข้าไปตรวจสอบ พบกลุ่มคนต่างด้าวซุกซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าหลายคน พอทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ก็พากันวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 12 คน แต่มีคนที่หนีไปได้อีก 4 คน โดยเจ้าหน้าที่พยายามติดตามค้นหานานกว่า 2 ชม.ก็ยังไม่พบตัว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมตัวคนต่างด้าวที่จับกุมได้ทั้ง 12 รายมาสอบสวน เบื้องต้นพบทั้งหมดเป็นชาวพม่าเชื้อสายโรฮิงญา ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดยมีชายเพียง 2-3 คน แต่ละคนมีกระเป๋าสัมภาระคนละใบ และอยู่ในสภาพอิดโรยร้องไห้ด้วยความตกใจที่ถูกไล่จับกุม เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปดูแลนำอาหาร-น้ำดื่มมอบให้ตามหลักมนุษยธรรม
พร้อมกันนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำหนึ่งในชาวโรฮิงญาไปชี้จุดซ่อนตัว พบว่าในอาคารพาณิชย์ใกล้กับพงหญ้าดังกล่าวพบรองเท้าอยู่ด้านหลังของอาคาร พร้อมควบคุมชายไทย 2 คน ที่เป็นผู้ดูแลอาคารพาณิชย์ดังกล่าวไปสอบสวนขยายผล เบื้องต้นทั้งคู่ให้การปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นการลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิงญาทั้งหมด
ขณะที่หนึ่งในชาวโรฮิงญาให้การผ่านล่ามแปลภาษาเบื้องต้นว่า ชาวโรฮิงญาที่ลักลอบเข้าเมืองมาทั้งหมด อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ ก่อนถูกนายหน้าชาวพม่าชักชวนให้อพยพไปประเทศมาเลเซีย แต่ต้องจ่ายเงินให้นายหน้าทั้งไทยและพม่า รวมแล้วรายละ 1 แสนบาทไทย ซึ่งได้จ่ายไปแล้ว 50% ส่วนที่เหลือจะจ่ายเมื่อเดินทางไปถึงปลายทาง คือ ประเทศมาเลเซีย
โดยอาศัยการลักลอบข้ามชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในอาคารพาณิชย์ดังกล่าวได้ 2 วันแล้ว และรอให้คนมารับเดินทางต่อตามที่นัดหมายในเช้าวันนี้ แต่รอกันมาหลายชั่วโมงก็ไม่มีรถมารับ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนมาพบและจับกุมได้ก่อน เบื้องต้นคาดว่าชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ถูกขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติล่อลวงมาทั้งหมด แล้วลอยแพให้เจ้าหน้าที่จับกุม