ราชบุรี - นายอำเภอจอมบึง ชี้แจงหลังชาวบ้านตำบลรางบัวพบดวงไฟประหลาด ลอยขึ้นสูงต่ำ พร้อมเตือนไม่ให้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และโปรดใช้วิจารณญาณ
จากกรณีมีการเสนอข่าวชาวบ้านหมู่ 3 หมู่ 7 และหมู่ 14 ต.รางบัว จ.ราชบุรี หลายสิบคน พบเห็นดวงไฟประหลาดเปลี่ยนสีได้ ลอยวูบวาบอยู่เหนือยอดไม้กลางทุ่งนา และหายเข้าไปในเชิงเขาหนองกรวยช้าง ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม โดยดวงไฟดังกล่าวมีลักษณะลอยขึ้นสูงต่ำเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม สีเขียว สีแดง และสีขาวได้ ทำให้มีชาวบ้านจากพื้นที่ต่างๆ พากันมาพิสูจน์ว่าดวงไฟดังกล่าวเป็นอะไรกันแน่
ล่าสุด วันนี้ (18 พ.ค.) นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอจอมบึง เปิดเผยว่า จากการที่มีชาวบ้านหมู่ 3 ต.รางบัว พบดวงไฟประหลาดที่มีแสงสีแดงสีส้ม ซึ่งมีชาวบ้านพบเห็นตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม และมีการเสนอข่าวว่า มีชาวบ้านแห่กันออกไปดูออกไปพิสูจน์ และมีการพยายามโยงไปในเรื่องของสิ่งลี้ลับต่างๆ ขณะนี้ทางอำเภอได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตรวจเช็กพบว่า ยังไม่ปรากฏหลักฐานว่าเป็นดวงไฟที่เกิดจากอะไร
ทางอำเภอได้ออกเตือนชาวบ้าน 1.ไม่ให้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว เพื่อออกไปดูออกไปพิสูจน์ดวงไฟประหลาด ซึ่งชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี 2.ในเรื่องของความเชื่อที่โยงกันไปทำให้เกิดจินตนาการไปหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลี้ลับ เรื่องตำนานต่างๆ ขอให้ใช้วิจารณญาณในการติดตามข่าวสาร ซึ่งดวงไฟดังกล่าวอาจจะไม่ใช่ในสิ่งที่ท่านคิด เพราะว่าตั้งแต่มีการเสนอข่าวมาจนถึงปัจจุบันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบดวงไฟดวงกล่าว ปรากฏขึ้นในบริเวณหมู่ 3 อีกเลย นั่นจึงเป็นไปได้ว่าดวงไฟดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์
นายอำเภอจอมบึง ยังกล่าวอีกว่า ตนได้คุยกับทางนักวิชาการมหาวิทยาลัยหมูบ้านราชภัฏจอมบึง โดยได้ฟันธงว่า ดวงไฟดังกล่าวน่าจะเป็นแสงไฟจากนักถ่ายภาพกลางคืนที่ใช้โดรนบินถ่ายในเวลากลางคืน จะทำให้คนถ่ายเห็นโดรนได้และไม่ทำให้หลงทิศ ทำให้ชาวบ้านเห็นดวงไฟดังกล่าวเป็นดวงไฟประหลาดเปลี่ยนสีได้ ซึ่งตั้งแต่เกิดเป็นกระแสข่าวไม่มีใครพบดวงไฟดังกล่าวนั้นอีกเลย จึงฝากขอความกรุณาหลายๆท่านที่เสพข่าวโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร ซึ่งหากมีดวงไฟดังกล่าวจริง ทางเจ้าหน้าที่ที่ทางอำเภอได้ให้คอยสังเกตการณ์เฝ้าระวังเวลาชาวบ้านไม่ให้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และให้คอยรายงานให้ชาวบ้านได้ทราบอยู่แล้วหากพบดวงไฟประหลาดจริงว่าดวงไฟดังกล่าวคืออะไรกันแน่
