ตราด - เปิดชีวิตต้องสู้! ทีมนักฟุตบอลหญิงเมืองตราด หารายได้เสริมช่วงปิดเทอม ซ้อมฟุตบอลไม่ได้จากพิษโควิด-19 รับจ้างเก็บเงาะในสวน จ.ตราด แลกเงิน 300-1,000 บาทต่อวัน แม้เจอฝนก็ไม่ท้อขอแค่ขอมีเงินซื้อรองเท้า เสื้อผ้านักเรียน ซ้ำช่วยเจ้าของสวนช่วงแรงงานต่าวด้าวหาย
จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มสร้างความเดือดร้อนให้แก่ภาคธุรกิจต่างๆ และการใช้ชีวิตของประชาชนในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน วันนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความยากลำบากในการทำมาหากินที่ขยายวงกว้างไปในทุกวงการเท่านั้น
ชาวสวนผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว เพราะนอกจากผลผลิตที่กำลังออกผลจะไม่สามารถส่งขายยังต่างประเทศได้ในปริมาณมากเช่นเดิมแล้ว การขาดแคลนแรงงานเก็บผลไม้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านก็กลายเป็นปัญหาใหญ่จากนโยบายการปิดพรมแดน
ภาพที่เห็นในวันนี้จึงมีทั้งกลุ่มแดนเซอร์ตกงานที่ต้องพากันมารับจ้างตัดทุเรียนในสวนเมืองระยอง เพื่อหารายได้ประทังชีวิต หรือแม้แต่การเกณฑ์สมาชิกในครอบครัวมาช่วยกันเก็บผลไม้แทนแรงงานต่างด้าว
เช่นเดียวกับในวันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสวนเงาะในพื้นที่ ม.4 ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด ซึ่งเป็นของ นางบุษบา สายสิทธิ์ เพื่อพบกับบรรดาแรงงานเก็บเงาะที่ได้รับแจ้งว่า เป็นนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีม นายสุรพงษ์ กูลนรา อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรตราด ที่พากันมารับจ้างเก็บเงาะเพื่อหารายได้เสริมในช่วงปิดเทอม ที่ไม่สามารถทำการฝึกซ้อมฟุตบอลได้จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นางบุษบา เจ้าของสวนบอกว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่สามารถหาแรงงานเก็บเงาะได้เหมือนทุกปี เนื่องจาก จ.ตราด มีมาตรการห้ามคนนอกเข้าพื้นที่เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งแม้ว่าจะมีการผ่อนผันในเรื่องแรงงานต่างด้าวสำหรับเก็บผลไม่ในช่วงฤดูเก็บผลผลิตก็ตาม แต่แรงงานในประเทศเพื่อนบ้านก็หวาดกลัวการแพร่ระบาด และนโยบายการปิดพรมแดนจึงพากันเดินทางกลับประเทศจนเกือบหมด
วันนี้จึงจำเป็นต้องเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนที่ต้องการมีรายได้เสริมในช่วงปิดเทอมได้ทำงานเก็บผลไม้ โดยเฉพาะเงาะ ที่กำลังออกผลผลิตจำนวนมากเพื่อใช้ทดแทนแรงงานต่างด้าวที่ขาดแคลน
"นักเรียนที่มาเก็บเงาะที่สวน เป็นผู้หญิงทั้งหมด และยังเป็นนักกีฬาฟุตบอลหญิงจากทีม นายสุรพงษ์ กูลนรา อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรตราด ที่ได้ชักชวนกันมาเก็บเงาะเพื่อหารายได้ช่วงที่ไม่สามารถฝึกซ้อมและแข่งขันได้ ซึ่งหลายคนมีพื้นที่ฐานและทักษะในการเก็บเงาะอยู่แล้ว ทำให้ไม่มีปัญหาในการทำงานมากนัก"
นางบุษบา ยังบอกอีกว่า เด็กๆ ทุกคนมีความตั้งใจและสนุกสนานกับการเก็บเงาะ เพราะแม้บางวันจะมีฝนตกหนักหรือแดดร้อนแต่ทุกคนก็ไม่ย่อท้อในการทำงานและจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 300 บาท
ขณะที่ น.ส.ทิพาพร ทั่งทอง อายุ 17 ปี บอกว่าในช่วงโรงเรียนปิดเทอมและไม่สามารถฝึกซ้อมฟุตบอล ได้จึงชักชวนเพื่อนๆ ในทีมออกมารับจ้างเก็บเงาะหารายได้เสริม เพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียน และรองเท้าสตั๊ด ซึ่งถึงแม้ในบางวันจะมีฝนตกหนักก็ไม่เป็นไร เพราะหากวันไหนขยันก็จะเก็บเงาะได้มากและได้ค่าจ้างมากถึง 500-1,000 บาทต่อวัน
"การเก็บเงาะ ยังช่วยสร้างความสามัคคี ความสนุกและการทำงานร่วมกันในทีมได้" น.ส.ทิพาพร กล่าว
เช่นกับ น.ส.ศิกานต์ ศรีเส็ง อายุ 16 ปี บอกว่าสาเหตุที่ต้องมาเก็บเงาะ เพราะอยากมีรายได้ในช่วงปิดเทอมและในช่วงที่งดซ้อมฟุตบอล ทำให้รายได้หายไปจนไม่มีเงินสำหรับใช้จ่ายส่วนตัว หรือซื้อสิ่งของที่จำเป็น ซึ่งเงินที่ได้จากการทำงานในสวนผลไม้จะนำำไปซื้อรองเท้าฟุตบอล โดยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ เพราะหากขยันก็จะเก็บเงาะได้เงินมากขึ้น