บุรีรัมย์- อลเวงแน่! เหยื่อถูกขโมยควายรายที่ 3 มั่นใจสองผัวเมียบุรีรัมย์ผู้ต้องหาขโมยควายโวยติดคุกฟรี 8 เดือนหลังศาลยกฟ้องคดีแรก ไม่ใช่แพะ แฉพยายามขอเคลียร์ขอจบคดีที่ 3 ที่ตำรวจอยู่ระหว่างสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งฟ้องอัยการสัปดาห์หน้า
วันนี้ (15 พ.ค.) ความคืบหน้า กรณี นายบุญเลี้ยง มงคลกูล อายุ 67 ปี และ นางสมมารถ คามวาสี อายุ 45 ปี สองสามีภรรยาชาว ต.เมืองยาง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับซื้อขายวัวควาย ออกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูก นายกำจัด นวชาติ อายุ 75 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกัน แจ้งความกล่าวหาว่าเป็นคนลักขโมยควาย 3 ตัว เพียงเพราะเชื่อหมอดูทักว่ามีลักษณะรูปร่างเหมือนคนร้าย จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับเข้าทำการจับกุมตัว ติดคุกอยู่ในเรือนจำนานกว่า 8 เดือน แต่สุดท้ายศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ล่าสุดส่อเค้าอลเวงเนื่องจากมีผู้เสียหายรายที่ 3 ที่ได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ไว้เมื่อปี 2562 ว่า ควายถูกลักขโมยไปได้ออกมายืนยันว่า นายบุญเลี้ยง และภรรยา เป็นคนลักขโมยควาย และไม่เชื่อว่าจะเป็นแพะตามที่เป็นข่าว
โดยผู้เสียหายรายดังกล่าว คือ นางสำราญ เรืองรัมย์ ชาวบ้านบ้านไทยพัฒนา ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2563 เวลาประมาณ 23.00 น. ได้มีคนร้ายมาตัดรั้วลวดหนามที่ทำเป็นคอกกระบืออยู่บริเวณข้างบ้าน แล้วขโมยเอากระบือเพศผู้สีดำ อายุประมาณ 3 ปี จำนวน 2 ตัว และกระบือเพศเมีย สีดำ อายุ 3 ปีอีก 1 ตัวรวม 3 ตัวไปจากคอกเดินลัดเลาะไปตามทุ่งนา ซึ่งตอนนั้นตนมองเห็นเป็นเงาตะคุ้มๆ แต่ไม่กล้าวิ่งตามไป เพราะอยู่บ้านคนเดียวสามีไปเยี่ยมลูกที่ต่างจังหวัด
จากนั้นจึงได้ไปยืมโทรศัพท์เพื่อนบ้านโทรศัพท์เข้าเบอร์มือถือของนายบุญเลี้ยง เพราะเชื่อว่าคนที่มาขโมยควายน่าจะเป็นนายบุญเลี้ยง เนื่องจากปี 2561 ก่อนที่ควายจะหาย นายบุญเลี้ยง เคยมาซื้อวัวกับตนเองที่บ้าน หลังจากนั้นก็มาตีสนิท และเคยโทรฯ มาหาหลายครั้งลักษณะเหมือนสอบถามดูความเคลื่อนไหวของตนเอง ซึ่งตอนที่โทรศัพท์ไปก็มีการกดรับสายแต่ไม่มีคนพูด แต่ตนได้ยินเสียงเหมือนกับการไล่ต้อนควายขึ้นรถ
จากนั้นวันที่ 3 มี.ค. ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ขโมยควายมาดำเนินคดี และ พยายามโทรศัพท์ไปถามพ่อค้าที่รับซื้อวัวควาย ให้ช่วยดูให้หน่อยว่ามีคนเอาควายของตนเองที่ถูกขโมยไปขายตามตลาดนัดหรือไม่ กระทั่งมีพ่อค้าวัวควาย คนหนึ่งบอกว่า เห็น นายบุญเลี้ยง และภรรยา ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน บม 5654 บุรีรัมย์ บรรทุกกระบือเพศผู้ สีดำ 2 ตัว และเพศเมีย 1 ตัว ซึ่งตรงกับควายของตนเองที่ถูกขโมย ไปขายที่ตลาดนัดโค-กระบือ อ.พล จ.ขอนแก่น ยิ่งทำให้ตนเองมั่นใจว่าเป็นนายบุญเลี้ยง อย่างแน่นอน แต่ควายทั้ง 3 ตัวถูกขายต่อไปแล้ว จึงไม่ได้ควายคืน
กระทั่งมาทราบภายหลังว่า นายบุญเลี้ยง และภรรยา ถูกแจ้งความในอีก 2 ท้องที่ แต่คดีที่ สภ.ชำนิ ศาลตัดสินยกฟ้อง และหลังออกจากเรือนจำ นายบุญเลี้ยง และภรรยา ได้ไปหาตำรวจบอกว่า ขอเคลียร์จ่ายเงินให้ 100,000 เพื่อจบคดี แต่เห็นเงียบหายไป
ขณะที่ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนคดี ส่งพนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องภายในสัปดาห์หน้านี้ และเชื่อว่าพยานหลักฐานเพียงพอดำเนินการเอาผิดกับผู้ต้องหาได้
อนึ่งก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เปิดเผย ว่า นายบุญเลี้ยง มงคลกูล อายุ 67 ปี และ นางสมมารถ คามวาสี อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา นอกจากเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีขโมยควาย นายกำจัด นวชาติ อายุ 75 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกันแต่ศาลยกฟ้อง จนออกมาเรียกร้องขอความธรรมในครั้งนี้แล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังถูกดำเนินคดีในความผิดฐานเดียวกันอีก 2 ท้องที่ คือ สภ.เมืองบุรีรัมย์ และ สภ.หนองสองห้อง จ.บุรีรัมย์ ด้วย