บุรีรัมย์ - สองผัวเมียนายฮ้อยชาว อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ วอนขอความเป็นธรรมถูกแจ้งจับกล่าวหาขโมยควาย ปฏิเสธไม่ได้ทำ แต่ ตร.ไม่สนค้านประกันตัว ส่งเข้าเรือนจำ สุดท้ายศาลสั่งยกฟ้องพ้นผิด แต่ติดคุกฟรี 8 เดือน สังคมรังเกียจตกนรกทั้งเป็น สุดช้ำถูกจับเพราะเจ้าของเชื่อหมอดู
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในตำบลเมืองยาง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ว่า มีสองสามีภรรยาถูกแจ้งความกล่าวหาว่าไปลักขโมยควาย เพราะเจ้าของเชื่อคำทำนายหมอดูจนต้องติดคุกฟรี 8 เดือน สุดท้ายศาลสั่งยกฟ้องเป็นผู้บริสุทธิ์เพราะไม่มีหลักฐาน แต่สองสามีภรรยาที่ถูกกล่าวหาต้องกลายเป็นจำเลยสังคมถูกตราหน้าเป็นหัวขโมย ญาติพี่น้องชาวบ้านรังเกียจ และต้องกลายเป็นคนตกงาน อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม และอยากจะให้เป็นบทเรียนกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่อยากให้เรื่องราวลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในกระบวนการยุติธรรม จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากการตรวจสอบพบว่า สองสามีดังกล่าว คือ นายบุญเลี้ยง มงคลกูล อายุ 67 ปี และ นางสมมารถ คามวาสี อายุ 45 ปี ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่กับยายอายุ 80 ปี จากการสอบถามนายบุญเลี้ยง เล่าให้ฟังว่า ตนกับภรรยามีอาชีพซื้อขายวัว-ควาย มานานกว่า 30 ปี เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 ตนกับภรรยา ขับรถกระบะไปบรรทุกควายที่ซื้อไว้ที่ ต.สวายจีก อ.เมืองบุรีรัมย์ กลับมาถึงคอกควายที่เช่าที่ไว้ต่างหมู่บ้าน ก็มีตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชำนิ เข้ามาแสดงหมายจับตนกับภรรยา ระบุว่า เป็นผู้ต้องหาขโมยควายของชาวบ้านจำนวน 3 ตัว ตนกับภรรยาก็ไปโดยไม่ขัดขืนอะไร เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ซึ่งพอไปถึงโรงพักก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในชั้นพนักงานสอบสวน และขอไปให้การในชั้นศาล แต่วันรุ่งขึ้นตำรวจนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดนางรอง อ.นางรอง พร้อมค้านประกันตัว โดยระบุว่า “เป็นบุคคลอันตราย” แล้วถูกส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำนางรอง ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าทั้งสองสามีภรรยาไม่มีความผิด เพราะไม่มีหลักฐานว่าเป็นคนขโมย จึงมีคำสั่งยกฟ้อง แล้วปล่อยตัวกลับบ้าน และต่อมาเมื่อเดือนเมษายน 2563 ได้รับเอกสารจากศาลจังหวัดนางรอง ยืนยันว่า ตนกับภรรยาเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม
นายบุญเลี้ยง กล่าวอีกว่า ระหว่างที่ตนกับภรรยาถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ มีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นอนร้องไห้ทุกคืน เพราะสิ่งที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง ทั้งตั้งข้อสงสัยว่าก่อนที่จะมีการนำหมายศาลมาจับกุมตัว ทำไมไม่เห็นมีการออกหมายเรียกก่อน จากกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเองและภรรยาต้องตกเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าว่าเป็นหัวขโมย ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านรังเกียจ และต้องตกงานขาดรายได้ รถกระบะที่เคยใช้ทำมาหากินก็ถูกยึด ข้าวของที่คอกวัวเดิมถูกคนขโมยไปจนหมด เพราะไม่มีใครดูแล ตอนนี้เป็นคนไร้อาชีพ ไม่รู้จะไปหากินแบบไหน เนื่องจากอาชีพที่ถนัดก็หมดอนาคตแล้ว
ด้าน นางสมมารถ ภรรยานายบุญเลี้ยง บอกว่า ตั้งแต่วันถูกจับขังแม่อายุ 80 กว่าปี ต้องอยู่ลำพังที่บ้าน เป็นห่วงแม่แต่ไม่รู้จะทำยังไง ตอนนี้กลายเป็นจำเลยของสังคมชาวบ้านไม่อยากคุยด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ช้ำใจ คือ มาทราบหลังออกจากเรือนจำ ว่า สาเหตุที่ถูกจับเพราะเจ้าของควายที่แจ้งจับไปดูหมอดูในตำบล ระบุลักษณะ รูปร่าง หน้าตา หุ่น และสีของรถ ซึ่งตรงกับตนกับสามี เป็นคนขโมยควายไป จึงไปแจ้งความกล่าวหาตน ก่อนจะนำไปสู่การจับกุม ก็อดคิดน้อยใจไม่ได้ถึงการทำงานของหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรม แต่ยังโชคดีที่ศาลท่านมองเห็น แต่สิ่งที่ตนกับสามีเจอเหมือนตกนรกทั้งเป็น อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบที่ที่ต้องติดคุกฟรีถึง 8 เดือน จนหมดอนาคต
จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านของ นายกำจัด นวชาติ อายุ 75 ปี บอกว่า ไม่ได้มีเจตนาจะปรักปรำใคร เพียงแค่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ไปตามความจริง และคำให้การของพยานที่เห็น แต่ก็ยอมรับว่า หลังควายหายได้ไปดูหมอจริง และหมอดูบอกว่าคนที่ขโมยไปลักษณะแบบไหน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของพยาน จึงทำให้เชื่อว่านายบุญเลี้ยงและภรรยา เป็นคนขโมยควายไป แต่เมื่อศาลท่านตัดสินมาแบบนี้ ก็ต้องเคารพในคำตัดสินใจ ส่วนควายที่หายทั้ง 3 ตัว ก็ไม่ได้คืน แต่หากถามความรู้ส่วนตัวยังเชื่อว่า นายบุญเลี้ยง เป็นคนขโมยไป