สุรินทร์ - แรงงานเขมรเดินทางกลับประเทศต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลไทยขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะช่วงปิดด่านผ่านแดนช่องจอม ควบคุมป้องกันโควิด-19 ทำมูลค่าส่งออกพุ่งต่อเนื่อง เผยเดือน เม.ย.ไทยส่งออกสินค้าเข้ากัมพูชาเพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค.เป็น 1,433 ล้าน
วันนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงานว่า ที่ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รัฐบาลไทย ได้ประกาศให้ขยายเวลาประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต่อจากเดือนเมษายน 2563 ไปจนสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งมีผลทำให้การปิดด่านผ่านถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต้องขยายเวลาต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 เช่นกัน ทำให้ชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยและชะลอการเดินทางกลับประเทศในช่วงที่ผ่านมา ต้องตัดสินใจพากันเดินทางกลับประเทศโดยได้ว่าจ้างรถตู้ และรถโดยสารสองแถว นำมาส่งและรวมตัวกันอยู่ที่ศูนย์โอทอป ตลาดช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ทุกวันตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากประชาชนชาวไทยที่ค้าขายที่ตลาดช่องจอม ว่ามีชาวกัมพูชา พากันเดินทางมารวมตัวกันที่ตลาดโอทอป ช่องจอม บางคนไม่มีการป้องกัน ไม่สวมหน้ากากอนามัย และไม่เว้นระยะห่างตามมาตรการด้านสาธารณสุข เกรงว่าจะมีการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 จากนั้นเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าจังหวัดสุรินทร์ ได้นำกำลังเข้าไปรับตัวชาวกัมพูชาที่ศูนย์โอทอป ตลาดช่องจอม จำนวน 36 คน เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา
โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ประสานความร่วมมือในการส่งตัวชาวกัมพูชา กลับประเทศกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุดรมีชัย ทำการคัดกรองประชาชนชาวกัมพูชา ที่เดินทางจากไทยข้ามแดนเข้าประเทศกัมพูชา และเจ้าหน้าที่กัมพูชาจะทำการกักตัว ประชาชนที่เดินทางเข้าไปในประเทศอีก 14 วัน ตามมาตรฐานการกักตัวหาเชื้อไวรัสโควิด-19
ชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศรายหนึ่ง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนรับจ้างทำงานเป็นกรรกรก่อสร้าง ที่จังหวัดระยอง ชลบุรี กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ จ.สระบุรี ช่วงที่ผ่านมาคิดว่ารัฐบาลไทยจะประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินสิ้นเดือนเมษายน นายจ้างบอกว่าก็จะกลับมาทำงานตามปกติ แต่พอสิ้นเดือนยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายจ้างเปิดทำงานไม่ได้ เลยทำให้ตัดสินใจพากันเดินทางกลับประเทศ เพราะอยู่ไปก็ไม่มีงานทำ มีแต่ค่าใช้จ่าย แม้รู้ว่าไม่เปิดด่านชายแดนให้ประชาชนข้าม แต่ด้วยความลำบากจึงตัดสินใจพากันเดินทางกลับประเทศ โดยเหมารถตู้ รถปิกอัพมาส่งที่ตลาดโอทอปช่องจอม ราคา 1,000-3,000 บาท
ด้าน ร.ต.อ.พิชาติ เอิบอาบ รองสารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนชาวไทยที่ตลาดโอทอป ช่องจอม ว่ามีชาวกัมพูชาเดินทางมาจากจังหวัดระยอง ชลบุรี สระบุรี และกรุงเทพฯ มารวมตัวกันเพื่อเดินทางกลับประเทศ ซึ่งช่วงเดือนนี้จะมีชาวกัมพูชา เดินทางกลับประเทศต่อเนื่อง วันหนึ่งราว 20-30 คน ชาวบ้านในพื้นที่เกรงว่าจะเป็นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงนำตัวชาวกัมพูชาส่งกลับประเทศเพราะทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายอำเภอกาบเชิง ได้มีการเจรจากับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ในการส่งตัวชาวกัมพูชาที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศในช่วงนี้ให้สามารถเดินทางกลับประเทศได้ โดยไม่มีการกักตัวไว้ที่ฝั่งประเทศไทย เมื่อข้ามแดนเข้าไปในประเทศแล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกัมพูชาจะทำการคัดกรอง และกักตัว ชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับเข้าประเทศเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรฐานการกักตัวต่อไป
นอกจากนี้พบว่า ในช่วงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และปิดด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค 19 เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ค้าขายชายแดนโดยเฉพาะการส่งสินค้าออกไปยังประเทศกัมพูชาผ่านด่านถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กลับมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนมีนาคม 2563 มียอดส่งออกสินค้าจำนวน 1,375,767,573 บาท และในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเป็น 1,433,996,665 บาท ประเภทสินค้าที่ส่งออกส่วนมาก ได้แก่ ลูกสุกร สุกรขุนมีชีวิต เครื่องดื่มชนิดต่างๆ อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง เครื่องดื่มยูเอชที นมถั่วเหลือง และลูกชิ้น ไส้กรอกแปรรูป เป็นต้น