xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มใหญ่กรุงเก่าตกงานเครียดจัด ปีนสะพานปรีดีธำรงหวังกระโดดฆ่าตัวตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา - หนุ่มใหญ่ชาวเมืองกรุงเก่าเครียดจัด ปีนสะพานปรีดีธำรงหวังกระโดดฆ่าตัวตาย พร้อมตัดพ้ออยู่บ้านไม่ได้ โรงเผาอิฐสร้างความเดือดร้อนจนภรรยาป่วยหอบหืด ตกงาน โชคดีเจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมสำเร็จ

วันนี้ (26 เม.ย.) ร.ต.อ.ไพศาล พิลา รอง สวป.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามี ชายปีนขึ้นไปบนบนสะพานปรีดี-ธำรง สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะฆ่าตัวตาย จึงไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิพุทไธสวรรย์

พบที่บริเวณโครงสะพานมีความสูงประมาณ 10 เมตร ชายอายุประมาณ 37 ปี นั่งอยู่บนโครงสะพานส่งเสียงตะโกนตัดพ้อชีวิต และเรียกร้องอยากพบผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เครื่องขยายเสียงเกลี้ยกล่อมพูดจาหว่านล้อมให้ชายคนดังกล่าวลดความเครียดลง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ติดต่อหาภรรยา และครอบครัวของชายคนดังกล่าว ให้เดินทางมาที่เกิดเหตุ แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังนั่ง สร้างความหวาดเสียวให้แก่ประชาชนที่มุงดูเหตุการณ์อยู่ด้านล่างจำนวนมาก

โดยประสานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นำรถกระเช้าพร้อมเจ้าหน้าที่ขึ้นไปเจรจา จนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ได้มี นางนงนุช บุญไมค อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 7 ตำบลบ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา มายืนยันว่าชายที่อยู่ด้านบนสะพานเป็นสามีของตนเอง ทราบชื่อคือ นายสมชาย ธารีสิทธิ์ อายุ 37 ปี มาตะโกนเรียกพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้ลงมา แต่ไม่สำเร็จ จะขอพบแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงคนเดียว ต่อมา ได้มีนายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย เดินทางมาพูดคุยและเกลี้ยกล่อม จนนายสมชาย ยอมให้รถกระเช้าเข้าไปรับท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนที่มามุงดู

จากนั้นได้นำลงมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้น นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล อดีต ส.ส. พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยปลอบใจ และมอบเงินจำนวนหนึ่งให้แก่นายสมชาย แล้วยังมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ตัวแทนนำเงินมาช่วยเหลือ พร้อม นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา รองหัวหน้า พรรคภูมิใจไทย มอบเงินช่วยเหลือด้วย

นายสมชาย กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนเองเครียดเห็นภรรยาป่วยเป็นโรคหอบหืด และพื้นที่ ม.7 บ้านที่ตนอยู่นั้นมีโรงเผาอิฐ ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากควัน ฝุ่นละอองเวลาเผาอิฐ ทำให้ภรรยาของตนล้มป่วย แล้วช่วงกลางคืนก็ยังมีการเผาอิฐทำให้ภรรยาตนหายใจไม่ออก หอบหืดทุกวัน ตนเคยร้องเรียนหน่วยงานรับผิดชอบไปแล้วหลายครั้งแต่นิ่งเฉย อีกทั้งผู้ประกอบการยังพูดจาถากถางอยู่เป็นประจำ ทำให้เครียดสะสมมานาน

อีกทั้งตนเองยังตกงานไม่มีงานทำในช่วงโควิด-19 ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน ก็ไม่ผ่าน หาทางออกไม่ได้ จึงเดินออกมาจากบ้านช่วงเช้าโดยไม่บอกใคร มาที่สะพานปรีดี แล้วปีนขึ้นไปบนสะพานดังกล่าวเพื่อเรียกร้องที่ตนเองและประชาชน ม.7 ได้รับผลกระทบจากโรงอิฐดังกล่าว เบื้องต้น ทางหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เดินทางมาพูดคุย และรับปากจะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเผาอิฐ และจะให้ความช่วยเหลือประชาชน ม.7 ที่เดือดร้อนได้รับผลกระทบจากควัน










กำลังโหลดความคิดเห็น