บุรีรัมย์ - เจ้าของร้านนวดแผนไทยบุรีรัมย์สุดช้ำใจลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบพิษโควิด 5,000 บาท ตามมาตรการคนไทยไม่ทิ้งกัน กลับแจ้งไม่มีสิทธิเพราะเป็นเกษตรกรทั้งที่ไม่เคยทำอาชีพเกษตรจดทะเบียนร้านนวดถูกต้อง จี้รัฐตรวจสอบเหตุเดือดร้อนขาดรายได้ ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า-ใช้จ่ายในครอบครัว
วันนี้ (14 เม.ย.) นางราตรี กุลโฮง เจ้าของร้านนวดแผนไทย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้เรียกร้องให้รัฐบาล หรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบการลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยากรณีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” เดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน หลังจากที่ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่พอวันที่ 12 เม.ย. กลับได้รับข้อความแจ้งตอบกลับมาว่าไม่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาเนื่องจากคุณเป็นเกษตรกร ทำให้รู้สึกงงและแปลกใจเพราะตนเองไม่เคยประกอบอาชีพการเกษตรหรือไปขึ้นทะเบียนเกษตรกรเลย
ยืนยันว่าตนทำอาชีพนวดแผนไทยที่กรุงเทพมหานครมาตั้งแต่ปี 2551-2555 และปลายปี 2555-2559 ไปรับจ้างนวดแผนไทยที่ต่างประเทศ แล้วพอปี 2560 กลับมาเปิดร้านนวดแผนไทยเป็นของตัวเองที่ อ.สตึก โดยได้ยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ในการประกอบพาณิชยกิจ ประเภทนวดแผนไทย เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2560 ที่สำคัญยังได้รับหนังสือทั้งทางสาธารณสุขจังหวัด และเทศบาลตำบลสตึก ให้ปิดร้านนวดแผนไทยตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ไปจนถึงที่วันที่ 30 เม.ย.
แต่พอลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาตามมาตรการของรัฐ กลับแจ้งว่าตนเองเป็นเกษตรกรทำให้ต้องเสียสิทธิได้รับการเยียวยา ทั้งที่อาชีพนวดแผนไทยเป็นอาชีพที่อยู่ในเงื่อนไขที่รัฐสั่งให้ปิดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และทางร้านก็ให้ความร่วมมือยอมขาดรายได้ และพอตนได้รับข้อความดังกล่าวก็ได้ไปขอตรวจสอบชื่อที่เกษตรอำเภอเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน ก็ไม่มีชื่อในระบบว่าเป็นเกษตรกรแต่อย่างใด
จากกรณีดังกล่าวอยากให้มีการตรวจสอบใหม่ หรือหากเป็นไปได้ให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่เป็นคนตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องส่งให้ทางส่วนกลาง เพราะตอนนี้ไม่รู้จะไปแจ้งต่อหน่วยงานไหนและจะขอความช่วยเหลือจากใคร เพราะเดือดร้อนมากไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว และค้างค่าเช่ามา 2 เดือนแล้ว