ถอดรหัส “ภูเก็ต” อัตราป่วยโควิดสูงสุด พบติดจาก “สถานบันเทิง” มากสุด มา รพ.ช้า เพิ่มโอกาสเชื้อกระจาย

ศบค.วิเคราะห์ “ภูเก็ต” ป่วยพุ่งในเวลา 2 เดือน มาจากกลุ่มสถานบันเทิงมากที่สุด ตามด้วยใกล้ชิดคนป่วย อาชีพเสี่ยง คนต่างชาติ พบมา รพ.หลังเริ่มป่วย 7 วัน ถึง 27% มาในช่วงวันที่ 4-6 ถึง 26% เพิ่มโอกาสเสี่ยงเพิ่มกระจายเชื้อ ชี้ตรวจเชิงรุกต้องเน้นในกลุ่มเสี่ยง

วันนี้ (13 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ภูเก็ตมีผู้ป่วยสะสมรวม 182 ราย มีอัตราป่วยสูงสุดในประเทศ คือ 44 ต่อแสนประชากร ทั้งนี้ มีรายงานติดเชื้อครั้งแรก 1 ราย วันที่ 26 ม.ค. และกราฟชันขึ้นมาภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน โดยพบว่า ภูเก็ตมีกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อจากสถานบันเทิงมากที่สุด 71 ราย รองลงมาเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน 33 ราย อาชีพเสี่ยง 33 ราย คนต่างชาติ 10 ราย คนไทยจากต่างประเทศ 4 ราย ขณะที่เมื่อเริ่มป่วยแล้วมารับการรักาาพบว่า ส่วนใหญ่มาตรวจหลังเริ่มป่วย 7 วันถึง 27.73% หรือ 1 ใน 4 ส่วนมาตรวจในวันที่ 4-6 มี 26.89% มารักษาใน 3 วัน 22.69% และมารักษาภายใน 1 วันเพียง 22.69% ตรงนี้สำคัญ เพราะยิ่งมาช้าโอกาสกลายเป็นพาหะโรคนำโรคไปติดคนอื่นมีสูง เพราะมีเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน สารคัดหลั่ง ออกมาฟุ้งกระจาย ทำให้จาก 1 คน มาเป็น 170 กว่าคนในเดือนเศษๆ

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า มาตรการดำเนินการพบว่า มีการปิดสถานบันเทิงเริ่มวันที่ 18 มี.ค. แต่กราฟยังสูง ต้องมีมาตรการเพิ่ม ปิดซอยบางลา นวดแผนไทย สนามกีฬา โรงแรม หาดป่าตอง ถึงกดตัวเลขลงไปได้ คือต้องได้รับความร่วมมือประชาชน อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่าเป็นจังหวัดไม่ใหญ่ มีประชากรไม่มาก ควรตรวจทั้งหมดหรือไม่ จากการตรวจเชิงรุกเมื่อวันที่ 5-7 เม.ย. และวันที่ 10 เม.ย. พบว่า เข้าไปตรวจ รพ.ป่าตอง 1,712 ราย เจอป่วย 19 ราย คิดเป็น 1.11% รพ.วชิระภูเก็ต ตรวจ 763 ราย เจอ 2 ราย คิดเป็น 0.26% รพ.สต.เชิงทะเล ตรวจ 103 ราย เจอ 5 ราย คิดเป็น 4.85% และ รพ.ถลาง ตรวจ 337 ราย ไม่เจอเลย จึงเป้นคำตอบชัดว่า การตรวจไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองใช้คนจำนวนมาก แต่เราตรวจในกลุ่มที่เสี่ยงสูง