ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิด 3 มาตรการเสริมรับนโยบาย Lock Down รอบ 2 เมืองพัทยา แก้ปัญหาแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ไข่แดงที่มีต่างชาติเกือบ 3 พันคน ทั้งเข้ม รพ.สนาม เปิดตัวแอปรายงานสุขภาพนักท่องเที่ยว และเครื่องมือ Lamp Test ตรวจหาพันธุกรรมไวรัส
จากกรณีที่เมืองพัทยา ได้ประกาศความพร้อมดำเนินมาตรการ Lock Down รอบ 2 จริงจังในวันที่ 16 เม.ย.นี้ หลังได้ข้อสรุปตรงกันที่การจัดตั้งจุดคัดกรองใหม่ 8 จุด และดึง 7-Eleven จำนวน 140 สาขาทั่วเมืองพัทยา ร่วมแจกเอกสารเข้าเมืองให้แก่ประชาชนที่มีธุระต้องเข้ามาในพื้นที่เพื่อปกป้องพื้นที่ชั้นในของเมืองพัทยาที่เปรียบเสมือน “ไข่แดง” เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักนั้น
และเพื่อให้ตรงวัตถุประสงค์ของการแก้ไขปัญหา แต่ลดผลกระทบต่ิประชาชนในพื้นที่ข้างเคียง เมืองพัทยา จึงได้ทำโครงการคู่ขนานอีก 3 โครงการเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการดูแลประชาชนในพื้นที่อาณาเขตโดยรอบ ประกอบด้วย ต.บางละมุง ต.หนองปลาไหล ต.โป่ง ต.หนองปรือ ต.ห้วยใหญ่ และ ต.นาจอมเทียน ประกอบด้วย
1.การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยใช้โรงแรมแกรนด์ เบลล่า ถนนพัทยากลาง เป็นสถานที่กักตัวเฝ้าระวังผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (High Risk) รวมทั้งผู้ป่วย PUI ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยเข้าพักได้ประมาณ 140-360 ห้อง
2.การจัดตั้งหน่วยคัดกรองตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยใช้เครื่องมือแบบใหม่ เรียกว่า Lamp Test จำนวนเริ่มต้น 2,000 ชุด ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสจ.ชลบุรี ซึ่งใช้เวลาตรวจและทราบผลว่าผู้ตรวจมีการติดเชื้อหรือไม่ภายในช่วงเวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น โดยในเบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย.นี้
และ 3.การพัฒนาระบบตรวจเช็กสุขภาพด้วยตนเอง โดยใช้ระบบ Application Mobile Self-check ที่ใช้สำหรับมือถือ Tablet หรือ Smart Phone ที่ท่านสามารถดาวน์โหลด เพื่อสำรวจและสแกนกลุ่มเสี่ยงซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลในการเข้าถึงเพื่อขอรับตัวเข้ารับการดูแลตามระบบ โดยจะเน้นไปที่สถานประกอบการโรงแรมที่ยังไม่ปิดดำเนินการกิจการชั่วคราวตามคำสั่งจังหวัดชลบุรี
ทั้งนี้ เพราะเมืองพัทยา ยังมีนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมต่างๆ อยู่รวมกว่า 160 แห่ง โดยป็นชาวต่างชาติที่ต้องเฝ้าระวังกว่า 2,800 ราย รวมถึงผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งแอปดังกล่าวจะสามารถรายงานผลด้านของสุขภาพ อุณหภูมิ การเดินทางของนักท่องเที่ยวเพื่อส่งเข้าศูนย์ฯ ได้แบบรายวัน
และจะทำให้ทราบถึงพฤติกรรมและอาการของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตลอด 24 ชั่วโมง อันเป็นการเฝ้าระวังเพื่อลดปัญหากำลังบุคลากรในการเฝ้าระวังอีกหนทางหนึ่งด้วย
