xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรเลี้ยงกุ้งราชบุรีส่งออกไม่ได้ช่วงวิกฤตโควิด-19 ตกค้าง 500 ตัน วอนรัฐช่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราชบุรี - นายสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย วอนกระทรวงพาณิชย์ช่วยเร่งประสานหน่วยงานระบายกุ้งก้ามกราม ของเกษตรกรที่ตกค้างกว่า 500 ตัน ด่วนหลังวิกฤตโควิด-19 งดการส่งออก ไม่สามารถระบายกุ้งออกสู่ท้องตลาดได้

นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในชื่อ “ประกอบฟาร์ม” ตั้งอยู่เลขที่ 81/1 หมู่ 6 ต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี มีบ่อเลี้ยงกุ้งอยู่จำนวน 40 บ่อ เนื้อที่ 300 ไร่ มีการเลี้ยงกุ้งตัวผู้ล้วนหลายรุ่นหมุนเวียนสลับกันไป ช่วงที่ผ่านมาเคยส่งออกจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยพื้นที่ราชบุรีถือเป็นแหล่งเลี้ยงกุ้งใหญ่ที่สุดในประเทศ สร้างรายได้มหาศาลให้แก่เกษตรกร

แต่หลังจากเกิดสถานการณ์เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดหนักไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยถูกสั่งปิดการค้าการจำหน่ายสินค้าระหว่างประเทศสิ้นเชิง รวมทั้งร้านค้า ร้านอาหารทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ โรงแรมต่าง ๆ ทำให้ขณะนี้กุ้งที่เกษตรกรเลี้ยงไว้กำลังอยู่ในช่วงโตเต็มวัย ไม่สามารถส่งออกไปจำหน่ายได้ หากเกินกำหนดการเลี้ยงและยังคงปล่อยให้อยู่ในบ่อก็จะกินกันเอง สร้างความเสียหายขาดทุนแก่เกษตรกรทั่วประเทศ

นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.บางแพ ประสบปัญหามากเรื่องการตลาดนำกุ้งออกไปขาย เนื่องจาก อ.บางแพ มีพื้นที่เลี้ยงกุ้งเกือบ 2 หมื่นไร่ ผลผลิตที่ตกค้างอยู่ตอนนี้ไม่น่าต่ำกว่า 500 ตัน เกษตรกรกำลังประสบปัญหาลำบากมาก กรณีกุ้งถึงอายุที่ต้องจับส่งขายตลาด แต่กลับนำไปขายไม่ได้ นำไปขายตลาดบางแห่งรับซื้อ บางแห่งไม่รับซื้อ

หลายคนพยายามขายทางตลาดออนไลน์ แต่ก็มีปัญหาไม่ค่อยมีความรู้ คิดว่าหลังจากนี้ไปอาจจะมีเกษตรกรเหลืออยู่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 90 เปอร์เซ็นต์อาจสูญหายจากไป เนื่องจากมีเรื่องเงินทุนต่างๆ เช่น การใช้เงินจ่ายค่ากระแสไฟฟ้า ค่าอุปกรณ์ ค่าแรงงานลูกน้อง ค่าอาหาร และอื่นๆ ทั้งที่มีกุ้งเลี้ยงอยู่ในบ่อแต่ขายไม่ได้ พอกุ้งก้ามกรามได้อายุครบ 4 เดือนแล้วไม่จับขายออก ก็จะเกิดปัญหากุ้งกินกันเองภายในบ่อ สุดท้ายก็จะเกิดปัญหาขาดทุน

จึงอยากวิงวอนผู้ที่มีอำนาจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องประสานช่วยเหลือ อย่างบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด จะมีประจำอยู่ทุกจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดคอยดูแล แต่ละจังหวัดจะมีของดีประจำอยู่ซึ่งก็เหมือนกับกุ้งราชบุรี แต่ละที่ก็ไม่รู้ว่าจะไปพบเจอกันอย่างไรเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคของดีกัน ซึ่งหากนำบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด มารวมกันทุกจังหวัดและแลกเปลี่ยนสินค้าของดีซึ่งกันและกัน ก็จะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรทั่วประเทศ

ซึ่งหากทางกระทรวงพาณิชย์รับหน้าที่เป็นกลไกในการช่วยเหลือครั้งนี้สามารถประสานงานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าเกษตรกรก็จะสามารถระบายสินค้าได้อย่างแน่นอน อย่างพื้นที่ภาคกลางตอนนี้มีกุ้งตกค้างไม่ต่ำกว่า 3,000 ตัน อีกทั้งค่ากระแสไฟฟ้าภาครัฐก็ไม่ได้ช่วยเหลือ เพราะว่ามีการขึ้นต้นด้วยเลข 3 เป็นเกษตรกรที่เป็นระดับกลางไม่มีการช่วยเหลืออะไรเลย

ทั้งนี้ หากสำนักงานพาณิชย์ช่วยประสานแต่ละจังหวัดของบริษัทประชารัฐแล้วให้ทางบริษัทประชารัฐเป็นผู้นำ พร้อมให้ส่วนราชการเป็นหน่วยงานเสริม คิดว่าจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ทั้งประเทศ

สำหรับราคากุ้งตอนนี้มีเกษตรกรหลายรายนำไปขายที่บริเวณแพมหาชัย จ.สมุทรสาครกันมาก กลายเป็นต้นทางที่จะต้องลดราคาขายลง มีเกษตรกรบางคนบอกว่าจะต้องเดินหน้าต่อไป คำนวณต้นทุนแล้วอย่างของที่ฟาร์มตนเองนั้น ไซ 11-13 ตัว/กก. ขายอยู่ราคา 330 บาท แต่ลองส่งทางเดลิเวอรีแล้วจะโดนค่าขนส่งราคา 100 บาท ทำให้ราคาปกติขณะนี้ต่อกิโลกรัมลดลงไปประมาณ 150 บาท ซึ่งไม่มีใครอยู่ได้ แต่จะทำอย่างไรให้มีการขายคืนทุนกลับเข้ามาบ้าง และสามารถเลี้ยงกุ้งต่อไปอีกได้

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางประกอบฟาร์ม ได้ให้ลูกจ้างไปจับกุ้งจากบ่อมาทำการคัดไซส์ประมาณกว่า 100 กิโลกรัม เพื่อเตรียมนำไปส่งที่สยามแม็คโคร และส่งลูกค้าที่สั่งผ่านระบบออนไลน์ในราคาที่ถูกลง เป็นเหตุผลที่เกษตรกรเลี้ยงกุ้งอยู่ไม่ได้จึงวอนให้ภาครัฐช่วยประสานงานในสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจกุ้งสามารถติดต่อได้ที่ นางศิริวรรณ ทรัพย์ยอดแก้ว โทร. 08-1702-4769 หรือ ID line 0-3229-5178










กำลังโหลดความคิดเห็น