น่าน - วันนี้เมืองน่านไม่มีแม้แต่ผู้ป่วยต้องสงสัยส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ปลอดผู้ติดเชื้อทั้งเก่า-ใหม่ แต่ยังต้องจับตาสงกรานต์ ล่าสุดทดลองใช้โปรแกรมอ่านบัตร ปชช.ออฟไลน์ สแกนคนผ่านด่านฯ หลักเข้าพื้นที่ละเอียดยิบ
วันนี้ (12 เม.ย.) นายกิติศักดิ์ แก้วนิ่ม นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สสจ.น่าน เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า วันนี้น่านไม่มีผู้ป่วยต้องสงสัยที่ต้องส่งแล็บเพื่อตรวจหาเชื้อ แสดงให้เห็นว่าจังหวัดน่านไม่มีผู้ป่วยในพื้นที่อยู่ก่อนแล้ว และไม่มีผู้ป่วยใหม่เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความเข้มแข็งและความร่วมมือร่วมใจกันในการสกัดการแพร่ระบาดของทุกภาคส่วน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังกันต่อไป คือ สัปดาห์นี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งส่วนราชการได้ออกมาตรการห้ามทุกอย่างแล้ว ทั้งเรื่องห้ามเข้าออกเมืองถ้าไม่จำเป็น ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามรวมตัวเล่นน้ำสงกรานต์ ห้ามกิจกรรมทางศาสนา ห้ามการรวมตัวชุมนุมเพื่อกิจกรรมต่างๆ และคนที่เดินทางกลับเข้ามาในจังหวัดน่านต้องกักตัว 14 วันทุกราย รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนมีความผิดทั้งจำและปรับ ทั้งนี้เพื่อให้จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่ปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไว้ให้ได้
ขณะที่ด่านห้วยน้ำอุ่น ต.อ่านนาไลย อ.เวียงสา จ.น่าน เส้นทางสายหลักเข้าสู่จังหวัดน่าน ล่าสุดมีการทดลองใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์คัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้าออกจังหวัดน่านเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ซึ่งยังจะมีคนเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงระบบการขนส่งและโลจิสติกส์
นายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายก อบจ.น่าน เปิดเผยว่า ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนนำโปรแกรมอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนแบบออฟไลน์ เพื่อระบุตัวบุคคลที่จะเดินทางเข้าจังหวัดน่าน โดยการนำบัตร ปชช.เสียบเข้ากับเครื่องอ่านข้อมูลเพื่อบันทึก จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเพิ่มเติมเบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลการเดินทางเข้าออกจังหวัด การพักอาศัย และข้อมูลจำเป็นอื่นๆ
ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น ลดเวลาการทำงาน จากเดิมการบันทึกข้อมูลต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อ 1 คน แต่ระบบนี้จะใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น ทำให้การติดตามข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการตรวจสอบการสวมบัตร หรือใช้บัตรประชาชนปลอมด้วย
ขณะที่ พ.อ. รุศมนตรี จิณเสน รอง ผอ.รมน.น่าน ระบุว่า ต้องให้ความสำคัญด้านข้อมูล เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากนี้จะให้ภาคเอกชนและโปรแกรมเมอร์ของสำนักงานสาธารณสุขร่วมกันพัฒนาระบบให้ดีขึ้นและป้องกันข้อมูลได้ดีกว่านี้จึงจะสามารถใช้ระบบออนไลน์ได้ ซึ่งตอนนี้ได้ทดลองโดยระบบออฟไลน์ก่อน
ด้าน นายวรกิตติ ศรีทิพย์พากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ระบบกำลังอยู่ในขั้นการทดลอง จำเป็นต้องเก็บข้อมูลและจัดทำเป็นเอกสารรายวันเพื่อตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล และความแข็งแกร่งของเซิร์ฟเวอร์ป้องกันการถูกลักลอบเข้าสู่ระบบหรือการแฮกข้อมูล รวมไปถึงการฝากข้อมูลไว้บนระบบคลาวด์ซึ่งอยู่ต่างประเทศด้วย
