เชียงราย - โลกออนไลน์แชร์โพสต์ร่วมอาลัยกันทั่ว..พยาบาลสาว รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์เสียชีวิตกลางศึกโควิดระบาด ขณะที่สามีเผยทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ทำงานกันหนักหลังไวรัสระบาดทั่วโลก
กรณีสังคมออนไลน์แชร์ข่าวพยาบาลประจำโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์โรคโดวิด-19 แพร่ระบาดนั้น ล่าสุดจากการสอบถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดังกล่าวทราบว่า พยาบาลที่เสียชีวิตคือ น.ส.มนิสรา ใจบุญ หรือพยาบาลนิด อายุ 39 ปี เป็นพยาบาลวิชาชีพประจำตึกผู้ป่วยสมเด็จย่าศัลยธรรม
และได้ล้มป่วยลงเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมาด้วยอาการเกล็ดเลือดต่ำ ความดันปอดสูง ลิ้นหัวใจรั่ว ไตทำงานหนักและต้องใช้การฟอกไต ก่อนติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วเสียชีวิต ปัจจุบันญาติได้นำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาเดิมที่ ต.ไม้ยา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย
ด้านนายธนพนธ์ หลวงแก้ว อายุ 41 ปี สามีของ น.ส.มนิสรา กล่าวว่า ตนกับภรรยามีลูกด้วยกันคนเดียว อายุเพิ่ง 4 ขวบ ซึ่งภรรยาของตนป่วยเป็นโรคหัวใจรั่วมาได้หลายปี ซึ่งแพทย์ได้รักษาตามอาการไปก่อนเพราะเธอไม่ยอมทำการผ่าตัดเนื่องจากจำเป็นต้องเลี้ยงดูลูกสาว ขณะเดียวกันก็ต้องทำงานในฐานะพยาบาล โดยเฉพาะเมื่อเกิดโรคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันหนักมากขึ้น
ซึ่งตนได้ไปรับ-ส่งภรรยาตลอด สังเกตเห็นว่าภรรยามีอาการเหนื่อย แต่ก็ยังบากบั่นทำงานตามหน้าที่ที่รับผิดชอบร่วมกับแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ในโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตนก็พยายามให้กำลังใจ กระทั่งภรรยาได้ล้มป่วยถึงขั้นเข้าไอซียูจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งตนเสียใจมาก และขอขอบคุณทุกคนที่ได้ช่วยเป็นกำลังใจโดยเฉพาะผู้ที่บริจาคเลือดให้
ด้านโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ได้มีประกาศแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ น.ส.มนิสรา พร้อมระบุว่าเป็นผู้ทำงานอย่างเสียสละและเป็นบุคลากรที่สำคัญกระทั่งเข้ารับการรักษาครั้งล่าสุดโดยที่แพทย์ได้พยายามรักษาอย่างเต็มที่แล้ว
โรงพยาบาลฯ ยังแจ้งอีกว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บุคลาการทางการแพทย์ได้ปฏิบัติงานในทุกแผนกอย่างเต็มกำลังและเสียสละอย่างเต็มความสามารถ ดังนั้น ทางโรงพยาบาลจึงรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณทุกฝ่ายที่ห่วงใยและให้กำลังใจ รวมทั้งเสียใจต่อการสูญเสียบุคลากรที่สำคัญอย่าง น.ส.มนิสรา เป็นอย่างยิ่ง และนับจากนี้ยืนยันว่าโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์จะทุ่มเทกำลังกายและใจดูแลชาวเชียงรายเพื่อก้าวข้ามวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันต่อไป