ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-สายหื่นผวา!เชียงใหม่เจอผู้ป่วยยืนยันโควิด-19เพิ่ม1รายล่าสุด พบเป็นสาววัย21ปี อาชีพเด็กเอ็นเตอร์เทน เพิ่งรับงานร่วมงานเลี้ยงกลุ่มส่วนตัว20-30คนในห้องเช่ากลางเมือง เตือนคนร่วมงานกักตัวและสังเกตอาการ
วันนี้(4 เม.ย.63) ที่ศูนย์ข่าวสารข้อมูลเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน ด้านระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายแพทย์ชาญชัย เปิดเผยว่า ในรอบ24ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ทำให้มียอดสะสมรวม 37 ราย ซึ่ง 6รายรักษาหายกลับบ้านแล้ว และเวลานี้เหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 31 ราย ส่วนผู้ป่วยที่อยู่เกณฑ์เฝ้าระวังที่เหลืออยู่โรงพยาบาลมีทั้งสิ้น 91 ราย จากทั้งหมด 736 ราย ที่เหลือกลับบ้านแล้ว
สำหรับผู้ป่วยยืนยันรายล่าสุดนั้น เป็นผู้หญิงอายุ 21 ปี อาชีพรับจ้างเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทน เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 23 มี.ค.63 ซึ่งจากการสอบโรคพบว่ามีประวัติเสี่ยงเนื่องจากเคยเข้าไปในสถานบันเทิงที่เป็นจุดเสี่ยงตามที่การระบุไว้ทั้งร้านตะวันแดงและร้านSound Up ในวันที่ 16 มี.ค.63 และวันที่17มี.ค.63 ตามลำดับ ขณะที่เมื่อวันที่ 20 มี.ค.63 ได้รับจ้างเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทนในงานเลี้ยงส่วนตัวที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ย่านแยกวิทยุธานินทร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่มีผู้ร่วมงานประมาณ20-30คน ทั้งนี้เบื้องต้นจากการคัดกรองมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ 4 ราย ได้แก่ ผู้ที่อยู่ร่วมบ้าน 1 ราย และเพื่อนสนิท 3 ราย โดยในส่วนของผู้ที่อยู่ร่วมในงานเลี้ยงดังกล่าวทั้งหมดประมาณ 20-30 ราย นั้น เบื้องต้นขอให้กักตัวและเฝ้าสังเกตอาการ หากผิดปกติให้พบแพทย์ทันที
ขณะที่นายชูชีพ พงษ์ไชย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยกรณีคนไทย 158 คน ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อคืนวานนี้(3 เม.ย.63) แล้วไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัวว่า ในจำนวนนี้ได้รับการประสานจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองว่า มีผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 4 คน โดยทางจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการตรวจสอบจนทราบว่า 3 คน ที่มีที่อยู่ตามทะเบียนราษฎรอยู่ในอำเภอสันทราย,อำเภอดอยสะเก็ด และอำเภอหางดง ได้เดินทางไปรายงานตัวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วในวันนี้ ส่วนอีก 1 คน ที่อยู่อำเภอฝาง นั้น ตรวจสอบทราบว่าเดินทางไปบ้านลูกที่อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ จึงประสานไปยังจังหวัดชัยภูมิ เพื่อติดตามให้ไปรายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิแล้ว.
