กาฬสินธุ์ - พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองน้ำดำเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิงวัย 25 ปี รับประทานอาหารและดื่มน้ำแก้วเดียวกันติดจากเพื่อนชาวหนองคายที่เดินทางกลับมาด้วยกัน ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมรวม 3 ราย ย้ำอย่าตื่นตระหนก เพราะผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังกักตัว พร้อมสั่งเอกซเรย์กลุ่มเดินทางกลับจาก กทม.และจังหวัดปริมณฑล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ต้านโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นพ.พรพัฒน์ ภูนากลม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) จ.กาฬสินธุ์ ประจำวันที่ 2 เมษายน 2563 โดยล่าสุดพบมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิงอายุ 25 ปี ชาว อ.ฆ้องชัย ซึ่งติดจากเพื่อนที่เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันใน จ.หนองคาย ทำให้ยอดสะสมผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์รวมเป็น 3 ราย
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวถึงสถานการณ์ใน จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย เป็นหญิง อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่นำตัวเข้าระบบแล้ว ทำให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อรวม 3 ราย และมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสอบสวนโรคสะสม 77 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ 65 ราย รอผล 9 ราย พบเชื้อ 3 ราย สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายมีจำนวน 51 ราย อยู่ในช่วงกักตัวกัน 14 วัน จำนวน 16 ราย สิ้นสุดแล้ว 35 ราย
กลุ่มเดินทางจากประเทศระบาดต่อเนื่องจำนวน 88 ราย ติดตามตัวได้ทั้งหมด อยู่ในช่วงกักตัว 39 ราย สิ้นสุดแล้ว 49 ราย ส่วนประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีจำนวน 14,131 ราย กระจายอยู่ใน 18 อำเภอ ซึ่งทุกคนจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกักตัวอยู่บ้านให้ครบ 14 วัน
นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า คณะกรรมการควบคุมโรค จ.กาฬสินธุ์ได้หารือเพื่อที่จะปรับแผนมาตรการให้สอดรับกับการประกาศเคอร์ฟิว รวมทั้งการกำหนดมาตรการยกระดับในการป้องกัน โดยทุกภาคส่วนจะร่วมมือกับอปท.ทุกแห่งลงพื้นที่เอกซเรย์ประชาชนที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑลทั้งหมด 14,131 ราย กำชับให้ปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด หากไม่ให้ความร่วมมือและฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังต้องเอกซเรย์ชาวกาฬสินธุ์ทุกคน โดยจะต้องแยกคนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มกักตัวให้ชัดเจนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม จากการประเมินของคณะกรรมการฯ จากวันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 คาดว่าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์จะมีผู้ป่วยไม่เกิน 10 ราย ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องเตรียมความพร้อม ทั้งอุปกรณ์ และบุคลากรไว้
ด้าน นพ.พรพัฒน์ ภูนากลม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายที่ 3 นั้นเป็นเพศหญิง อายุ 25 ปี จากการสอบสวนโรคพบประวัติสัมผัสโดยตรงกับเพื่อนที่เป็นผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยแล้วใน จ.หนองคาย โดยในวันที่ 19 มีนาคม 2563 ได้เดินทางมาจากต่างจังหวัดด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน และดื่มน้ำแก้วเดียวกัน
กระทั่งวันที่ 26 มีนาคม 2563 ซึ่งผู้ป่วยที่ จ.หนองคายได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าระวังและกักตัวดูอาการผู้ป่วยหญิงรายนี้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 และเริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ผลตรวจยืนยันล่าสุดพบว่าติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังบุคคลใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งหมดและกักตัว โดยเฉพาะคนในบ้าน 13 ราย ในชุมชนเดียวกัน 1 ราย และสถานที่ทำงาน 1 ราย อย่างไรก็ตาม ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังสังเกตอาการอยู่แล้ว
ขณะที่นายแพทย์ ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผู้ป่วยทั้ง 3 รายในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ รายแรกรักษาครบ 10 วัน ปัจจุบันมีไข้ต่ำเล็กน้อย ภาพรวมปกติดี หากครบระยะการรักษาก็สามารถกลับบ้าน แต่ต้องกักตัวเองที่บ้านอีก 30 วัน รายที่ 2 เข้ารักษาครบ 8 วัน ภาพรวมอาการปกติดี ในส่วนรายล่าสุดผลการตรวจยืนยันวันที่ 2 เมษายน 2563 สัมผัสกับเพื่อนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งอาการทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ไม่มีไข้