อุบลราชธานี - สถานีรถไฟจังหวัดอุบลราชธานีออกมาตรการเข้มสกัดไวรัสโควิด-19 ผู้โดยสารต้องแจ้งต้นทางและปลายทางก่อนขึ้นรถ หวังใช้ติดตามตัวหากพบผู้ติดเชื้อ ย้ำต้องสวมหน้ากากตลอดการเดินทาง ฝ่าฝืนเชิญลงจากรถ
วันนี้ (2 เม.ย. 63) บรรยากาศที่สถานีรถไฟแห่งประเทศไทย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พบว่ามีประชาชนเข้ามาใช้บริการน้อยมาก นับตั้งแต่เริ่มเกิดโรคระบาดมีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการเดินทางบางตามาก เห็นได้ชัดในแต่ละช่วงที่มีรถวิ่งรับส่งช่วงนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นสถานีต้นทางและปลายทางภาคอีสานตอนล่าง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางไปกับขบวนรถไฟ จะต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณประตูทางเข้าสถานี ซึ่งจัดให้มีทางเข้าออกทางเดียว ก่อนอนุญาตให้ซื้อตั๋วใช้เดินทางได้
หลังได้รับตั๋วเดินทาง ผู้โดยสารทั้งหมดจะต้องลงทะเบียนให้รายละเอียดแก่สถานีรถไฟ โดยเดินทางมาจากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดใด ก่อนที่จะมาขึ้นรถ และต้องระบุจุดหมายปลายทางที่ต้องการเดินทางไปให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานีทราบ พร้อมต้องระบุสถานที่ หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ หากขบวนรถไฟที่เดินทางพบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อนำตัวเข้ามารับการตรวจรักษาไม่ให้เชื้อโรคลุกลามจนยากแก่การรักษา
ด้านนายประสาท บัวกรด นายสถานีรถไฟจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงมาตรการเดินรถในเดือนเมษายน การรถไฟแห่งประเทศไทยสั่งให้กวดขันผู้โดยสารที่จะเดินทางไปกับขบวนรถอย่างเข้มงวด ทั้งก่อนขึ้นและลงรถ และระหว่างเดินทางไปกับขบวนรถไฟต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาทุกคนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคระหว่างเดินทาง หากฝ่าฝืนพนักงานประจำรถและตำรวจจะเข้าควบคุมตัวและไม่ให้เดินทางต่อไปกับขบวนรถ
อนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลดขบวนรถด่วนและรถเร็วสายยาววิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และอุบลราชธานี-กรุงเทพฯ วันละ 4 ขบวน ทำให้ปัจจุบันจะมีรถวิ่งให้บริการเพียงวันละ 8 ขบวน จากเดิมวิ่งวันละ 12 ขบวน
ดังนั้น ก่อนเดินทางขอให้ผู้โดยสารมาถึงสถานีรถไฟก่อนเวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อมาเข้ารับการคัดกรองและทำบันทึกกับเจ้าหน้าที่ต้นทาง จะนำส่งต่อไปยังปลายทางที่ผู้โดยสารแต่ละรายจะเดินทางไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน ตามมาตรการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งใช้บังคับช่วงมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้