พ่อ-ย่าร้องไห้ระงม เป่าเค้กวันเกิดหน้าโลงน้องแอมป์ เหยื่อมีดจิตรลดา

นครปฐม - ครอบครัวน้องแอมป์ อายุ 5 ขวบ เป่าเค้กวันเกิดหน้าโลงศพ ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อและย่า ขณะช่วงเช้าแม่ จิตรลดา เดินทางไปเจรจาเรื่องการดูแลงานศพและค่าใช้จ่ายให้แก่ครอบครัวแล้ว ย่าเผยยังไม่อยากจะอภัยกับสิ่งที่เกิด ขณะตำรวจตั้งข้อหากล่าวหาฆ่าคนตายไว้แล้ว แต่ยังสอบปากคำไม่ได้

วันนี้ (31 มี.ค.) ที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มารดาของ น.ส.จิตรลดา ตันติวานิชชยสุข อายุ 51 ปี มือมีดที่ก่อเหตุใช้มีดปอกผลไม้แทง ด.ญ.ทิพรดา หอมสุวรรณ หรือน้องแอมป์ อายุ 5 ขวบ เสียชีวิต ได้เดินทางมาพบกับนางสาลี่ อวนมิน อายุ 49 ปี หรือป้าติ๋ม และนายทะนงศักดิ์ หอมสุวรรณ หรือเอ็ม อายุ 26 ปี ย่าและพ่อของ น้องแอมป์ โดยได้มาทำการตกลงในเรื่องการดูแลเรื่องการจัดงานศพ และการเยียวยาในด้านต่างๆ ต่อหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ได้แยกย้ายกัน

จากนั้นครอบครัวของน้องแอมป์ ได้เดินทางเพื่อไปรับศพที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และนำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ศาลาภายในวัดกลางคูเวียง ต.วัดแค อ.นครชัยศรี ท่ามกลางกองทัพสื่อที่เดินทางมาร่วมทำข่าวดังกล่าว

โดยเมื่อมาถึง พ่อและย่า รวมถึงปู่และน้าของน้องแอมป์ ได้ช่วยกันยกโลงศพของน้องแอมป์ลงมาเพื่อตั้งรอสำหรับการประกอบพิธีทางศาสนาโดยไม่มีการรดน้ำศพแต่อย่างใด โดยมีการนำรถจักรยานเด็ก และเค้ก มาพร้อมกับภาพตั้งหน้าศพเพื่อเตรียมตั้งในพิธี โดยมีญาติของน้องแอมป์ มารอช่วยกันจัดสถานที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการสวดพระอภิธรรมคืนแรก โดยจะสวดไปถึงวันเสาร์นี้ และจะมีการฌาปนกิจต่อไป

ขณะเดียวกัน ทางครอบครัวได้มีการนำเค้กวันเกิดเขียนอวยพรถึง น้องแอมป์ มาจุดและเป่าที่หน้าโลงศพก่อนที่จะมีการปิดบรรจุ เนื่องจากเมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) เป็นวันครบรอบวันเกิด 5 ขวบเต็ม ซึ่งก่อนเสียชีวิตได้บอกกับย่าว่าอยากได้รถจักรยานคันใหม่ เพราะคันเก่าที่ขี่เล่นกับพี่สาวได้พังไปแล้ว

ช่วงเวลาในการร้องเพลงอวยพรเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ก่อนที่พ่อของน้องแอมป์ จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้และร้องไห้ออกมา โดยได้บอกว่าให้ลูกสาวหลับให้สายและบอกรักกันโดยขอให้ชาติหน้ากลับมาเป็นพ่อลูกกันอีก โดยที่ทุกคนในครอบครัวต่างพากันร้องไห้ไปตามๆ กัน ซึ่งสื่อที่กำลังเกาะติดบรรยากาศภายในงานต่างเงียบและแสดงสีหน้าเศร้าไปด้วย

นางสาลี่ อวนมิน อายุ 49 ปี หรือป้าติ๋ม บอกว่า วันนี้ได้คุยกับป้าอร ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.จิตรลัดดา โดยเขาได้เสนอว่าจะขอช่วยเหลือในด้านต่างๆ รวมถึงการจัดงานศพและเงินสดส่วนหนึ่ง ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ได้คุ้มเลยกับที่เขาเสนอมา แต่ก็ดูเขาเครียดมาก ปกติเราสนิทกันจะทำขนมมาส่งกันไปมาประจำ ซึ่งตอนนี้ จิตรลดา หรือเป็ด ได้ถูกนำตัวไปส่งรักษาตัวที่สถาบันกัลยาราชนครินทร์ พุทธมณฑล แล้ว

ถามว่าวันนี้อยากจะให้เขามางานศพน้องไหม คิดว่าคงมาไม่ได้เพราะอาการเขาหนัก ส่วนการที่จะอภัยให้หรือไม่ คิดว่ามันรุนแรงเกินไปที่เขาทำกับหลานเรา เพราะน้องนอนไม่รู้เรื่องอะไรเลย วันนี้ก็ได้เอาจักรยานที่น้องอยากได้มาให้แล้ว ซึ่งถ้าบอกกับน้องแอมป์ได้ อยากจะบอกรักเขาเพราะเขาเป็นเด็กดี น่ารัก

นางสาลี่ หรือป้าติ๋ม บอกอีกว่า เมื่อวานได้มีทีมแพทย์จากสถาบันกัลยาราชนครินทร์ พุทธมณฑล ซึ่งได้มาพูดคุยกับตนเองและป้าอร แม่ของ น.ส.จิตรลดา โดยได้สอบถามไปว่าทำไมถึงปล่อยคนป่วยออกมาใช้ชีวิตอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เพิ่งมีอาการ แต่ไม่มีใครตอบได้ ซึ่งมีกระแสจากคนมาด่าเราอีกว่าทำไมไม่ป้องกัน เราบอกว่าเราไม่คิดว่าเขาจะมีอาการขึ้นมาอีกเพราะเขาดูปกติ ไม่มีแววตาที่ทำให้เรามีพิรุธเลย ซึ่งตอนที่เขามีอาการคือ 13 มี.ค. และกลับไปรักษาตัวคือ 17 มี.ค. ก่อนจะกลับมาได้อาทิตย์เดียวและมาก่อเหตุ

ถามแม่เขาไปก็บอกว่า ดีขึ้นแต่ยังซึมๆ โดยทางบ้านบอกว่าป้องกันแล้ว แต่ช่วงเผลอเขาก็ออกมาจนได้ ส่วนประเด็นที่มีการมอบตัวหลังก่อเหตุ น.ส.จิตรลดา ที่หายตัวไปได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างระหว่างทางโดยบอกว่าลืมเงินไว้ ซึ่งทุกอย่างเขาปกติดีหมดในช่วงที่ก่อเหตุ

“ถามว่าเราจะกลับไปเช่าร้านเขาต่อมั้ย บอกว่ายังคิดไม่ออก แต่ป้าอร บอกว่าอยากให้กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ยังให้ใช้ชีวิตปกติแบบที่เคยเป็นแต่เรายังไม่คิด แล้วป้าอร บอกอีกว่าตอนนี้ลูกสาวเขาคงไม่ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติแล้วเพราะอาการหนักกว่าเดิม และวันเกิดเหตุเขาเดินมาที่ น้องเอิน ซึ่งเป็นพี่สาวของน้องแอมป์ก่อน แต่ก่อเหตุแค่คนเดียวไม่ได้แทงน้องเอินไปด้วย ส่วนทางคดีอาญาตำรวจก็บอกว่าได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายไว้แล้วแต่ยังสอบปากคำไม่ได้ ” นางสาลี่ กล่าวปิดท้าย