อึ้งซ้ำ! อสม.พะเยา นักรบแนวหน้าขาดทั้งหน้ากากฯ-อุปกรณ์ป้องกัน จนเสี่ยงติดเชื้อโควิดแล้ว

พะเยา - อึ้งซ้ำกันอีก..หลังพะเยาพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แถมมีกลุ่มเสี่ยง แต่ อสม.-ผู้นำชุมชน-รพ.สต. นักรบโควิดแนวหน้ากลับขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกัน ต้องดัดแปลงหาใช้กันเอง จน จนท.เสี่ยงติดเชื้อแล้ว 2 ราย เช่นเดียวกับ รพ.ประจำจังหวัดที่ยังขาดแคลนหน้ากากฯ หนัก


บรรยากาศในหมู่บ้านศรีเมืองชุม หมู่ 6 และบ้านใหม่พัฒนา หมู่ 8 ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา วันนี้(30 มี.ค.) เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่ค่อยจะมีรถสัญจรผ่านไปมา ร้านค้าปิดกันเกือบทั้งหมด ขณะที่ประชาชนอาศัยอยู่ในบ้านพักของตนเอง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จำนวน 1 ราย


นางปภาดา ธิมาคำ เจ้าของร้านขายของชำบ้านหมู่ 1 ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากพบผู้ป่วยโควิด ร้านค้าเกือบทั้งหมดในหมู่ที่ 6 และหมู่ 8 ได้ปิดลงเนื่องจากกลัวการแพร่ระบาด และผู้ค้าส่งสินค้าก็ไม่กล้าเข้ามาส่งของในพื้นที่ มีเพียงไม่กี่ร้านที่เปิดเพราะเกรงว่าหากปิดร้านแล้วชาวบ้านจะไม่มีที่ซื้อของใช้อุปโภคบริโภค เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่บางส่วนเท่านั้นที่ต้องกักตัวเอง 14 วัน

อย่างไรก็ตาม ตนจะให้ลูกค้าที่มาซื้อของอยู่ห่าง 2 เมตร และจ่ายเงินหรือรับของโดยการวางบนโต๊ะ เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรง และให้ใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยทุกครั้งเวลามาซื้อของ ไม่เช่นนั้นจะไม่ขายให้เด็ดขาด นอกจากนี้ยังไม่มีการขึ้นราคาสินค้าทุกชนิดรวมทั้งไข่ไก่ด้วย เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน


ด้าน น.ส.รัตนา คำยัง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านร่องย้าง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตรวจพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่ อสม.ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงรวม 11 ราย โดยแยกเป็นคนในครอบครัว 4 ราย คนที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครในรถยนต์คันเดียวกัน 5 ราย และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.อีก 2 ราย ปัจจุบันกักตัวอยู่ในบ้านของตนเองทั้งหมด และจะครบกำหนดในวันที่ 6 เมษายนนี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นน่าเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ คือ อุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สำหรับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังและติดตามกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ล้างมือ หน้ากาก N95 ชุดป้องกันการติดเชื้อ และหน้ากากอนามัย ซึ่งตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อจนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าจะเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงก็ตาม ไปหาซื้อตามร้านค้าก็ไม่มี มีเพียงโรงพยาบาลจุน ที่แจ้งมาว่าจะส่งชุดป้องกันการติดเชื้อมาให้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับ


ผอ.รพ.สต.กล่าวต่ออีกว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องต้องหาอุปกรณ์มาดัดแปลงเพื่อป้องกันเชื้อโควิดเอาเอง ซึ่งมีตัวอย่างมาแล้วจากเจ้าหน้าที่ รพ.สต.2 รายที่อยู่ในข่ายมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากสัมผัสผู้ป่วย ยังไม่รวมถึง อสม.และผู้นำชุมชน ที่ต้องลงพื้นที่ทุกวัน เพื่อติดตามและเฝ้าระวังเพราะผู้ป่วยมีประวัติในการเดินทางไปในหลายที่และมีกลุ่มเสี่ยงหลายราย

ขณะที่ก่อนหน้านี้บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลพะเยา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด มีเจ้าหน้าที่รวมทั้งหมดกว่า 2,000 คน ต้องลอบแจ้งผ่านสื่อมวลชนขอรับบริจาคหน้ากากอนามัย เนื่องจากขาดแคลนอย่างหนัก ทีมแพทย์-พยาบาลที่ต้องรับผู้ป่วย มีหน้ากากฯใช้อีกเพียงไม่กี่วัน ขณะที่ทีมเจ้าหน้าที่ส่วนสนับสนุน ต้องใช้หน้ากากผ้าแทน ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลยังต้องเร่งเปิดพื้นที่รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะด้วย ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก


ห้วงเดียวกัน ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.พะเยา ฝ่ายปกครองพะเยา และพาณิชย์จังหวัดพะเยา เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านของ นางณภาภัช หรือกิ๊บ เดินแปง ในพื้นที่ ต.บ้านต๊ำ อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา เจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.สต.แห่งหนึ่ง ที่ถูกผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ซัดทอดว่าขายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊กในชื่อ kib Naphaphat ในราคากล่องละ 750 บาท

จากการตรวจค้นบ้านของนางณภาภัช พบหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นสินค้าควบคุมซุกซ่อนจำนวนมาก ประกอบด้วย 1. หน้ากากอนามัย ยี่ห้อ SMP จำนวน 411 กล่อง (20,550 ชิ้น) 2. หน้ากากอนามัยยี่ห้อ LIWORLDCO จำนวน 152 กล่อง (7,600 ชิ้น) 3. หน้ากากอนามัยยี่ห้อ FAMAPRO จำนวน 122 กล่อง (6,100 ชิ้น) รวมของกลางทั้งหมดจำนวน 685 กล่อง ประมาณ 34,250 ชิ้น จึงได้ตรวจยึดและนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน