สุรินทร์ - ผู้ว่าฯ เมืองช้างโต้คลิปตัดต่อทำแตกตื่นทั่วประเทศ เข้าใจผิดว่าสุรินทร์ติดเชื้อโควิด-19 แสนราย ประณามเป็นผู้ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ถามจิตสำนึกความเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด ยืนยันแจ้งเตือน ปชช.ทุกคนช่วยกันไม่ให้เกิดการระบาดร้ายแรงขึ้น
วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีที่มีผู้นำคลิปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้ให้สัมภาษณ์แก่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เพื่อย้ำเตือนให้ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ช่วยกันแก้ไขและลดความสุ่มเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยได้ยกสถิติตัวเลขเทียบเคียงจำนวนประชากรในเมืองอู่ฮั่น สาธารรัฐประชาชนจีน กับจำนวนประชากรของจังหวัดสุรินทร์
แต่กลับพบว่ามีผู้นำเอาคลิปที่ลงเผยแพร่ในเพจ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ไปคลิปเสียง และภาพที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์กล่าวถึงเมืองอู่ฮั่นพูดถึงจำนวนประชากรติดเชื้อหนึ่งแสนรายไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย จนเป็นที่เข้าใจว่าชาวจังหวัดสุรินทร์มีผู้ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวน 1 แสนคน ทำให้ประชาชนแตกตื่นทั่วประเทศ โดยได้ตั้งหัวข้อคลิปที่นำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ความจริงปรากฏแล้ว ผวจ.สุรินทร์เปิดแล้ว จ.สุรินทร์ ติดเชื้อเป็น 100,000 ราย...อาการหนักอยู่ห้องไอซียู 5,000 คน..ไม่แสดงอาการ 80,000 คน และอยู่ รพ.อีกนับหมื่น” ตามด้วยคลิปที่มีการตัดต่อ
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ชี้แจงว่า กรณีที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียลมีเดียว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์พูดว่ามีผู้ป่วยจากโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์จำนวน 1 แสนรายนอนโรงพยาบาล 8 หมื่นราย อยู่ห้องไอชียู 5 พันราย ป่วยนอนโรงพยาบาลนับหมื่นรายนั้นเป็นคลิปตัดต่อ จึงขอให้ฟังคลิปตั้งแต่เริ่มต้น ตนเอาข้อมูลที่ได้รับจากการคาดการณ์ขั้นสูงสุดในการป้องกันแก้ไขปัญหา หากไม่ทำอะไรเลย ไม่ช่วยกัน ข้าราชการไม่เอาใจใส่ ชาวบ้านไม่สนใจที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาป้องกันปัญหา มันก็จะเป็น ซึ่งก็เอาข้อมูลที่เป็นตารางให้ดูว่าถ้าเกิดติดเชื้อประมาณนี้ของอู่ฮั่นมาทาบ เราเอาแค่ 10% ของจำนวนประชากร เอาสถิติอู่ฮั่นมาทาบกับคนสุรินทร์มี 1.3 ล้านคน คิดตัวเลขกลมๆ คนสุรินทร์จะติดเชื้อหนึ่งแสนคน แปดหมื่นมีอาการเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้านได้ หมื่นห้าต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการ แต่ห้าพันคนจะเป็นคนป่วยหนัก ต้องเข้าห้องไอชียู ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ถ้าเราปล่อยไปปัญหาก็หนัก เพราะเรามีแพทย์ไม่กิน 380 คน มีพยาบาล 2,200 คน มีเครื่องช่วยหายใจ 200 กว่าเครื่อง ถ้าเราไม่เริ่มลงมือช่วยเหลือกัน พี่น้องชาวสุรินทร์ต้องช่วยกัน
ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องของผู้ว่าฯ ของแพทย์ แต่เป็นปัญหาของประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ทุกคนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไปจนถึงจุดนั้น การที่ตนพูดในคลิปที่เผยแพร่ในเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ไม่หวังดี ดาวน์โหลดแล้วนำมาตัดต่อใหม่ ตัดเอาช่วงเวลา 4.36 นาที แทนที่จะเอามาตั้งแต่ต้นที่ตนพูด แต่มาเอาตอนที่ตนพูดว่าคนติดเชื้อหนึ่งแสนคน และใช้ข้อความว่า “ความจริงปรากฏแล้ว ผวจ.สุรินทร์เปิดแล้ว จ.สุรินทร์ติดเชื้อเป็น 100,000 ราย...อาการหนักอยู่ห้องไอซียู 5,000 คน..ไม่แสดงอาการ 80,000 คน และอยู่ รพ.อีกนับหมื่น” ทำให้ชาวบ้านและประชาชนทั่วประเทศสับสน
ขอยืนยันว่าถึงเวลานี้ จ.สุรินทร์มีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวน 5 ราย ซึ่งอยู่ในความดูแลของแพทย์ และเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์กักตัวและจัดหาอาหารไปส่งให้ทุกวัน ดูแลเป็นอย่างดี สิ่งที่ตนพูดเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา ให้เชื่อเจ้าหน้าที่ ทำงานตามหลักวิชาการ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
นายไกรสรกล่าวต่อว่า “ผมขอประณามในสถานการณ์เช่นนี้ คุณเป็นใครฝ่ายไหน สีอะไร ถามหาจิตสำนึกความเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน ผมไม่ได้ไปแตะเรื่องทำงานของใคร ผมทำงานตามนโยบายของรัฐบาลทำงานเพื่อประชาชน ไม่น่าเชื่อว่าจะเอาจุดเล็กๆ น้อยๆ ไปตัดต่อสร้างความตกใจให้กับประชาชนแก่ผู้คนในประเทศ และได้มอบหมายให้ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองสุรินทร์ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ผู้ตัดต่อคลิป ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ เรื่องนี้ผมจะติดตามตลอด ผมถือว่าขนาดข้าราชการผู้ใหญ่ยังถูกกระทำขนาดนี้ ผมเชื่อว่าคนนี้เขาไม่หวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองแน่นอน”
ยืนยันว่าคำให้สัมภาษณ์ของตนไม่ทำให้ใครได้ประโยชน์และเสียผลประโยชน์ ถือเอาบนหลักวิชาการ สื่อสารกับประชาชน ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อ 5 ราย 3 รายแรกมาจากเวทีมวย รายที่ 4 พ่อครัวที่ปารีส มาบ้านครอบครัวไปรับมาบ้านไม่กี่วันเข้าโรงพยาบาล รายที่ 5 คนสุรินทร์ ติดเชื้อมาจากพัทยา จ.ชลบุรี สัมผัสผู้ป่วยชาวต่างชาติชาวสวิตเซอร์แลนด์ มีอาการไข้ลงจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจ และรถพยาบาล หาตัวจนพบไม่แพร่เชื้อและได้ติดตามรถ คนขับรถที่โดยสารมา ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง
ขณะนี้ปิดสถานที่เสี่ยงทั่วจังหวัด 513 แห่ง ตลาดนัด วัด ตลาดสด 1,500 แห่ง จัดระเบียบทางเดินให้เหมาะสม หากยังไม่เรียบร้อยก็ดำเนินการต่อไป จุดคัดกรองสถานีขนส่ง รถไฟ จำนวน 4 แห่ง ทีมโควิดอาสา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.กระจายทั่วจังหวัด 84,837 ครัวเรือน จัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนไว้ประจำหมู่บ้าน สนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.สุรินทร์ จำนวน 2,605 เครื่อง
“จังหวัดสุรินทร์ระดมกำลังทุกภาคส่วนในการป้องกัน สร้างความเข้าใจกับประชาชน ทั้งที่อยู่ในพื้นที่และเดินทางมาจากต่างจังหวัดและต่างประเทศอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องชาวจังหวัดสุรินทร์” นายไกรสรกล่าวในตอนท้าย