ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปากร้ายใจดี! ร้านส้มตำดังเชียงใหม่ “เต๋อตำยำระเบิด” พ่อค้าปากจัดในตำนานร่วมด้วยช่วยกันฝ่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 แจกฟรีส้มตำ “ไทย-ลาว-ปลาร้า” วันละ 100 ครก ช่วยแบ่งเบาภาระค่ากินให้คนว่างงานหรือขาดรายได้
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตามที่เกิดกระแสหยิบยื่นความช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้ว่างงานหรือขาดรายได้ ด้วยการแจกอาหาร, น้ำดื่ม หรือสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพ ล่าสุดพบว่าที่ร้านเต๋อตำยำระเบิด กาดทรัพย์ทองคำ ซึ่งเป็นของร้านส้มตำชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่นอกจากรสชาติอร่อยดีเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าประจำมากมายแล้ว พ่อค้าเจ้าของร้านที่เป็นผู้ปรุงอาหารด้วยตัวเองยังมีเอกลักษณ์ในเรื่องการใช้คำพูดคำจาอย่างที่หลายคนอาจจะเรียกว่าปากปีจอ ได้ร่วมให้ความช่วยเหลือคนว่างงานหรือขาดรายได้ในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน โดยตำส้มตำแจกให้ฟรีวันละ 100 ถุง สำหรับ 100 คนแรก ให้นำกลับไปรับประทาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63 ถึงวันที่ 13 เม.ย. 63
นายธนกร ปิยธรรมรงค์ หรือ “เต๋อ” อายุ 30 ปี เจ้าของร้านเต๋อตำยำระเบิด กาดทรัพย์ทองคำ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในเวลานี้ทราบดีว่ามีคนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากเนื่องจากต้องว่างงานหรือขาดรายได้ ตนจึงอยากจะให้ความช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องการกินอยู่ให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนแม้จะเป็นเพียงเล็กน้อย ด้วยการแจกส้มตำให้ฟรีวันละ 100 ถุง เพื่อนำกลับไปรับประทาน เริ่มตั้งแต่เปิดร้านในเวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63 ไปถึงวันที่ 13 เม.ย. 63 โดยส้มตำที่แจก ได้แก่ ส้มตำไทย, ส้มตำลาว และส้มตำปลาร้า ที่จะตำสดๆ ใหม่ๆ ครกต่อครก อีกทั้งคุณภาพและปริมาณเหมือนกับที่ทำขายทุกอย่าง
ทั้งนี้ นายธนกรบอกว่า ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาจนหลายคนมองว่าเป็นคนปากจัดหรือปากคอเราะร้าย พอจัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้นมาก็ถูกบางคนกล่าวหาว่าเป็นการทำเพื่อสร้างภาพ ซึ่งตนไม่อยากต่อล้อต่อเถียง แต่ยืนยันว่าทำด้วยความจริงใจและต้องการช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะคนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ในเวลานี้ โดยในส่วนของร้านตนนั้นที่จริงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นกันเพราะไม่สามารถเปิดร้านขายให้ลูกค้านั่งรับประทานตามปกติได้ แต่ให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านเท่านั้น ทำให้ยอดขายตกไปพอสมควรและต้องปรับเวลาเปิดร้านเร็วขึ้นเป็นตั้งแต่ 10.00 น.จากปกติที่เริ่มเปิด 16.30 น. อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าในที่สุดแล้วสถานการณ์จะคลี่คลายและอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ๆ นี้ไปด้วยกันให้ได้ด้วยดี