กาญจนบุรี - เมืองชายแดนด้านตะวันตก จ.กาญจน์ เคาะประตูบ้านสแกนหาบุคคลกลับจาก กทม. และปริมณฑล ป้องกันไวรัสโควิด-19 ส่วนช่องทาง ซ.พาณิชย์ ถูกปิดตาย ร้านค้าเริ่มปิดตัว โรงงานหยุดกิจการชั่วคราวลงแล้ว
วันนี้ (24 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยนายสุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ.0410.7/ว 217 ลงวันที่ 21 มี.ค.2563 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เรื่องขอความร่วมมือจัดทำแผนปฏิบัติการค้นหา เฝ้าระวัง และป้องกันโรค ระดับอำเภอและหมู่บ้าน กรณีผู้เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19
ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณจุดผ่อนปรนชั่วคราวทางการค้า ด่านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่มีแนวเขตชายแดนติดกับกิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า เจ้าหน้าที่ประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นผู้นำท้องที่ ได้ร่วมกันเฝ้าระวังการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานชาวพม่า อย่างเข้มข้น
ส่วนบริเวณฝั่งกิ่งอำเภอพญาตองซู พบมีเจ้าหน้าที่ทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่พยาบาลของพม่า ได้ตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิของชาวพม่าที่เดินทางกลับมาจากบ้านบ่อญี่ปุ่น และบ้านไร่อ้อย ที่มีเขตชายแดนติดกับประเทศไทย อย่างเข้มงวด ก่อนที่จะอนุญาตให้เดินทางผ่านด่านตรวจ เพื่อเข้าไปในพื้นที่ชุมชนและตลาดในเมืองพญาตองซู
ขณะเดียวกัน มีแรงงานชาวพม่า กว่า 500 คน ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ แต่ไม่สามารถเดินทางไปได้ เนื่องจากทางการพม่ายังไม่อนุญาตให้กลับ ดังนั้นแรงงานทั้งหมดจึงพักอาศัยอยู่ตามบ้านญาติทั้งที่บ้านบ่อญี่ปุ่น และบ้านไร่อ้อย รวมทั้งอาศัยอยู่ตามวัดวาอารามด้วย
ทั้งนี้ นายสถาพร บุญสมจิตร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เปิดเผยว่า จากคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ให้จัดทำแผนปฏิบัติการค้นหา เฝ้าระวัง และป้องกันโรค ระดับอำเภอและหมู่บ้าน กรณีมีผู้เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อให้กลุ่มบุคคลเหล่านั้นมารายงานตัวต่อฝ่ายปกครองเพื่อให้สาธารณสุขสามารถเข้าไปติดตามพร้อมกักตนเองอยู่ที่บ้านพักเป็นเวลา 14 วันตามที่กำหนด
ดังนั้น วันนี้ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้าน จะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อสม.หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จัดกิจกรรมเดินเคาะประตูบ้านเพื่อติดตามหาบุคคลกลุ่มดังกล่าว เมื่อพบจะได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านพระเจดีย์สามองค์ ทราบ เพื่อเข้าไปให้คำแนะนำในการดูแลตนเองและบุคคลรอบข้าง และจะได้ติดตามดูอาการตลอดเวลา 14 วันที่ถูกกักตัว ระหว่างเวลาดังกล่าวหากตรวจพบมีอาการเป็นไข้ จะได้รีบนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที
ขณะที่ พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า (กองกำลังสุรสีห์) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจด่านความมั่นคง บ้านน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ซึ่งด่านดังกล่าวเป็นด่านแรกที่อยู่ใกล้ชานแดนไทย-พม่า มากที่สุด โดย พ.อ.สิทธิพร สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกนายเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจตราบุคคลที่เดินทางผ่านด่าน โดยจะไม่อนุญาตให้แรงงานพม่า ที่มีพาสปอร์ตผ่านเข้าออก พร้อมทั้งตรวจสอบการลักลอบนำเข้าออกสินค้าที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งยาเสพติด และให้กำลังพลทุกนายสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยด้วย
และเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ได้ประชุมกับหน่วยงานสาธารณสุขและผู้นำชุมชนในพื้นที่ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ที่มีเขตติดกับพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ โดยในที่ประชุมมีมติให้จัดตั้งจุดคัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้าออก อ.สังขละบุรี ที่บริเวณจุดตรวจร่วมจงอั่ว
โดยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของทุกคน หากพบว่าสูงกว่า 37.5 องศา จะขอความร่วมมืองดเดินทางเข้าพื้นที่ อ.สังขละบุรี พร้อมทั้งนำส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลทันที ถึงแม้ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยและผู้ต้องสงสัยที่ป่วยด้วยไวรัสโควิด-19 ก็ตาม แต่เพื่อเป็นการป้องกัน จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาล ซึ่งอาจสร้างความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางไปบ้าง จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการทำงาน เพื่อทุกคนจะได้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณด่านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ ปัจจุบัน เป็นไปอย่างเงียบเหงา ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 10 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมาซื้อสินค้าปลอดภาษีประเภทบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สำหรับร้านค้าต่างๆ ที่มีอยู่ต่างก็ได้ปิดตัวลง จะมีอยู่เพียง 2-3 ร้านเท่านั้นที่ยังคงเปิดตามปกติ
เช่นเดียวกับสถานประกอบการประเภทโรงงานต่างๆ ก็ได้ปิดกิจการลง เนื่องจากแรงงานที่มีอยู่เป็นชาวพม่า และแรงงานทั้งหมดได้กลับประเทศไปหมดแล้ว ส่วนช่องทางซอยพาณิชย์ที่ 4-8 เจ้าหน้าที่ได้นำสังกะสี รวมทั้งลวดหนามมาปิดกั้นเอาไว้ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าออกของแรงงานชาวพม่า โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอสังขละบุรี เฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด