ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ผู้ป่วยโควิด-19โคราชอาการน่าห่วง เซียนมวยรายที่ 3 ปอดอักเสบ ส่วนหญิง 2 รายดีขึ้น ล่าสุดผลแลบรพ. เป็นบวกอีก 3 ราย รอผลสองแลบยืนยันก่อนประกาศติดเชื้อเพิ่มและพบกลุ่มสัมผัสเสี่ยงติดเชื้อสูงอีก 45 ราย ผู้ว่าฯสั่งปิดสถานบริการรวม 1,053 แห่ง มุ่งรณรงค์ “#อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ”
วันนี้ ( 20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จังหวัดนครราชสีมา ได้แถลงยืนยัน จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 แล้วจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นักศึกษาหญิง อายุ 22 ปี , แม่ค้าจากชายแดนกัมพูชา อายุ 30 ปี และเป็นชาย เซียนมวยจากสนามลุมพินี เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ชาว อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นั้น
ล่าสุดเวลา 14.00 น. วันนี้ ที่ห้องประชุมนางสาวบุญเหลือ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา , นพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รวมทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ , นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ และปลัดจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งล่าสุด มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อ จำนวน 228 ราย พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 ราย ไม่พบเชื้อ จำนวน 215 ราย นอนโรงพยาบาลรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 10 ราย ซึ่งล่าสุดผลแลบโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ยืนยันเป็นบวก 3 ราย แต่จะต้องรอผลยืนยันจากห้องแลบ อีก 2 แห่ง จึงจะประกาศผลได้ ซึ่งจำนวนดังกล่าวเป็นผลมาจากการคัดกรองฯ จำนวน 32,227 ราย
ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อรายที่ 3 ซึ่งเป็นเซียนมวย จากสนามมวยลุมพินี ชาว อ.พิมาย นั้น มีกลุ่มเสี่ยงสัมผัสเพิ่มเป็น 176 ราย ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.พิมาย 26 ราย อ.โนนไทย 125 ราย และ อ.สูงเนิน 25 ราย แบ่งเป็นมีความสูง 45 ราย และ เสี่ยงต่ำ 31 ราย ซึ่งได้ดำเนินการให้กักตัวเป็นเวลา 14 วันทั้งหมดแล้ว
ขณะนี้ทางจังหวัดฯ มีการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนพยายามอยู่บ้านให้มากที่สุด โดยใช้สโลแกนว่า “ #อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อเป็นการลดการกระจายและลดการแพร่ของเชื้อโรค โดยเรายึดหลักว่า ลดเสี่ยงดูแล คือลดการเสี่ยง ด้วยการดูแลตัวเองด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ให้บ่อยขึ้น และหากไม่สบายให้สวมหน้ากากอนามัยและสวมหน้ากากอนามัยในการดูแลตัวเองตลอด เลี่ยงไปในพื้นที่ที่สงสัยว่าจะมีการแพร่ระบาด เลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีการชุมนุมของคนจำนวนมาก ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณกลุ่มมิตรผลที่นำแอลกอฮอล์ 3,000 ลิตร และ แอลกอฮอล์เจล 500 มิลลิลิตร มามอบให้เราเพื่อนำไปใช้ในโรงพยาบาลทั้งจังหวัดฯ
รวมทั้งขอบคุณเจ้าของกิจการโรงแรม 2 แห่ง ทั้งโรงแรมปัญจดารา กับ โรงแรมศรีพัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่เสนอตัวเป็นพื้นที่รองรับสำหรับการกักเก็บตัวผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกรณีที่ทางราชการจำเป็นต้องใช้เป็นสถานที่
สำหรับการปิดสถานบริการ นั้น ประกอบด้วย สนามมวย 1 แห่ง สนามกีฬาชนไก่ และสนามซ้อมไก่ 23 แห่ง สนามม้า 1 แห่ง รวม 25 แห่ง และปิดสถานบริการ โรงภาพยนตร์ นวดแผนโบราณ นวดเพื่อสุขภาพ นวดเสริมความงาม สปา ร้านเกมส์ อินเตอร์เน็ต คาราโอเกะ สวนสนุก สวนน้ำ รวมทั้งสิ้น 1,053 แห่ง ทั้งจังหวัด
นพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า การรับผิดชอบในการดูแลรักษากรณีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 ราย ในจำนวนนี้มีผู้หญิง 2 รายที่อาการดีขึ้น และมี 1 รายอาการดีขึ้นและร้องขอกลับบ้าน แต่ยังไม่สามารถให้กลับบ้านได้ เพราะต้องอยู่ให้ครบ 14 วัน และจะต้องมีการตรวจเชื้อทุกวัน และตรวจเชื้อซ้ำอยู่ตลอดในช่วงนี้จนแน่ใจว่าไม่มีเชื้อแล้วเราจึงจะปล่อยให้กลับบ้านได้ และจะต้องไปติดตามตรวจซ้ำที่บ้านต่อไปอีก ซึ่งทั้ง 2 รายนี้รักษามาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว และเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ ทั้ง 2 รายนี้อาการดีขึ้นถือเป็นกลุ่มที่ไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องให้ยา เพราะอาการดีขึ้นด้วยตัวของเขาเอง ฉะนั้นจริงๆแล้วโรคโควิด-19ไม่ใช่เป็นโรคที่น่ากลัว
ส่วนอีกรายเป็นชายที่ติดเชื้อมาจากสนามมวยลุมพินี อาการมีปอดอักเสบแทรกซ้อนอยู่ ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้สนับสนุนยามาให้ในการรักษา ขณะนี้อาการยังคงที่อยู่ ไม่แย่ลง และยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากปอดอักเสบ ต้องใช้เวลารักษาบ้าง แต่ไม่ได้อยู่ในขั้นวิกฤตที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรือ ต้องเข้าห้องไอซียู ฉะนั้นในกรณียืนยันทั้ง 3 ราย คนไข้อาการยังดีและอยู่ในความปลอดภัย