ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่นำแถลงผลประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ เผยพบผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันเพิ่มอีก 1 ราย ยอดรวมเป็น 3 ราย รอผลตรวจรอบสองยืนยันอีก 6 ราย ขณะเดียวกันสั่งเพิ่มให้ปิดสถานประกอบการคล้ายสถานบริการทั้งหมดเป็นการชั่วคราวด้วยหลังพบเสี่ยงแพร่เชื้อ
วันนี้ (20 มี.ค. 63) ที่ศูนย์ข่าวสารข้อมูลเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และนายแพทย์ วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์เฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า จากการประชุมล่าสุดคณะกรรมการมีมติให้สถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการปิดให้บริการเป็นระยะเวลา 14 วันด้วย จนถึงวันที่ 1 เม.ย. 63 จากที่ก่อนหน้านี้ให้เปิดบริการได้ภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดตามมาตรการป้องกัน อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 มี.ค. 63) พบว่ามีความเสี่ยงและอาจจะไม่ปลอดภัย เพราะมีความเป็นไปได้ที่บางคนที่มีความเสี่ยงอาจจะไม่รับผิดชอบแล้วเข้าไปใช้บริการจนทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ทางคณะกรรมการจึงพิจารณาทบทวนและมีมติให้หยุดให้บริการเป็นการชั่วคราวเหมือนกันทั้งหมด เพื่อประโยชน์และประสิทธิภาพในการป้องกันควบคุมโรค นอกจากนี้ยังเห็นควรว่าจากนี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลช่วงเวลาและสถานที่ที่ผู้ป่วยเดินทางไปด้วยเพื่อประโยชน์ของประชาชนในการระวังป้องกันตัวเอง แต่จะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย
ขณะที่ นายแพทย์ วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยว่า ตามที่ก่อนหน้านี้จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยยืนยันแล้ว 2 ราย ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันใหม่เพิ่มอีก 1 ราย ทำให้ยอดรวมเป็นทั้งสิ้น 3 ราย ซึ่งรายแรกเป็นคนจีนที่รักษาหายแล้วเดินทางกลับไปแล้ว ส่วนรายที่ 2 เป็นเซียนมวยที่กลับมาจากกรุงเทพฯ และรายที่ 3 เป็นผู้ที่เข้าไปอยู่ในสถานบันเทิงเดียวกันและช่วงเวลาเดียวกันกับผู้ป่วยรายที่ 2 ที่ไปสังสรรค์เมื่อคืนวันที่ 8 มี.ค. 63 ซึ่งเมื่อไม่นับรวมกับรายที่กลับบ้านแล้วขณะนี้เชียงใหม่มีผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 8 ราย โดย 6 รายอยู่ระหว่างการรอผลตรวจยืนยันครั้งที่สองจากห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคสะสม 368 ราย ซึ่งผ่านการตรวจแล้ว และเวลานี้เหลือ 24 รายที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนการติดตามผู้เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงนั้นมี 367 ราย ติดตามครบ 14 วันแล้ว 185 ราย ที่เหลือกักตัวเองอยู่บ้าน 153 ราย และอยู่ในสถานที่ที่จัดไว้ให้ 13 ราย โดยมีที่ยังติดตามหาตัวอยู่อีก 16 ราย