บุรีรัมย์ - แม่วัย 67 ปีบุรีรัมย์สุดทน ลูกชายขโมยข้าวเปลือกในยุ้งไปขายซื้อเหล้าดื่ม ต่อว่าไม่พอใจจับแขนแม่เหวี่ยง แม่คว้ามีดปลายแหลมในตะกร้าหมากแทงสวนบาดเจ็บ ไม่ยอมไปรักษาแค่ทำแผลกลับมาดื่มเหล้าต่อ สุดท้ายนอนตายหน้าบ้าน เพื่อนบ้านสุดเห็นใจและสงสารยาย
วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านปะเคียบ ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ว่า ได้เกิดเหตุสลดใจลูกชายพยายามขโมยข้าวเปลือกในยุ้งไปขายเพื่อนำเงินไปซื้อเหล้าดื่ม ผู้เป็นแม่เข้าห้ามและต่อว่าไม่ให้เอาไปขายเพราะกลัวไม่มีข้าวกิน แต่ลูกชายกลับไม่พอใจจะเข้าทำร้ายแม่บังเกิดเกล้าของตัวเอง ซึ่งขณะเกิดเหตุแม่ถือตะกร้าหมากอยู่ในมือจึงคว้ามีดปลายแหลมที่ใช้สำหรับหั่นหมากแทงสุ่มออกไปเพื่อป้องกันตัว พลาดไปโดนบริเวณใต้ราวนมข้างซ้ายลูกชายได้รับบาดเจ็บ แต่ลูกชายไม่ยอมไปหาหมอ แค่ไปทำแผลที่ รพ.สต.แล้วกลับไปนั่งดื่มเหล้าต่อ สุดท้ายพบนอนเสียชีวิตหน้าบ้าน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (18 มี.ค.)
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าทางครอบครัวได้นำศพของนายสมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ลูกชายที่ถูกแทงเสียชีวิตไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดแล้ว ส่วนบรรยากาศที่บ้านก็มีชาวบ้านมาช่วยงานจำนวนมาก ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นใจและสงสารผู้เป็นแม่เป็นอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางตึ่ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งนั่งอยู่ที่บ้านในอาการโศกเศร้าเสียใจ หลังจากได้มอบตัวพร้อมรับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวน สภ.คูเมือง ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ
จากการสอบถามยายตึ่งเล่าให้ฟังว่า ตอนประมาณ 15.00 น. วานนี้ ขณะนั่งเคี้ยวหมากอยู่หน้าบ้านก็เห็นนายสมศักดิ์ ลูกชาย ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาเดินถือกระสอบปุ๋ยตรงไปที่ยุ้งข้าว แล้วขึ้นไปตักเอาข้าวเปลือกใส่ในกระสอบ 1 กระสอบ แล้วโยนลงจากยุ้ง กำลังจะตักเอาข้าวเปลือกใส่กระสอบที่ 2 ตนจึงเดินไปที่ยุ้งโดยหิ้วตะกร้าหมากไปด้วย ซึ่งในตะกร้าหมากมีมีดปลายแหลมด้ามทำด้วยไม้ยาวประมาณ 23 เซนติเมตร 1 ด้าม และมีดปลายแหลมพร้อมด้ามพลาสติกสีแดงยาวประมาณ 18 เซนติเมตรอีก 1 ด้าม ที่สำหรับเอาไว้หั่นหมากเคี้ยว ไปยืนอยู่หน้ายุ้งข้าวแล้วตะโกนว่านายสมศักดิ์ลูกชายว่า “มาตักเอาข้าวทำไม ไม่มีปัญญาหาทางอื่นแล้วเหรอ ข้าวหมดแล้วจะกินอะไร” ทำให้ลูกชายไม่พอใจกระโดดลงจากยุ้งตรงเข้ามาหาตนเอง เข้ามากระชากแขนแล้วเหวี่ยงอย่างแรง ด้วยความโมโหตนจึงหยิบมีดในตะกร้าหมากแทงสวนออกไปข้างหน้า 1 ครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้โดนลูกแค่ป้องกันตนเองเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาเคยถูกลูกชายทำร้ายหลายครั้งจึงกลัว แต่ปรากฏว่ามีดพลาดไปโดนที่บริเวณใต้ราวนมซ้ายของลูกชายจนได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุบอกให้ลูกไปหาหมอ แต่ลูกชายไม่ฟังกลับไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนต่อ กระทั่งเพื่อนที่ดื่มเหล้าด้วยกันบอกให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปะเคียบ ซึ่งหมอทำแผลให้ แต่เนื่องจากแผลค่อนข้างลึก ทาง รพ.สต.จึงเตรียมรถฉุกเฉินเพื่อส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลคูเมือง แต่ด้วยความเมานายสมศักดิ์ไม่ยอมไปยังกลับมาดื่มเหล้าต่อกับเพื่อนอีก พอดื่มเหล้าเสร็จประมาณ 18.00 น. ก็กลับไปนอนที่ชั้นล่าง แม่ไปเรียกอีกเพื่อจะบอกให้ลูกไปหาหมอพบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว จึงได้โทรศัพท์บอกลูกสาวคนโตซึ่งอยู่บ้านอีกหลังให้มาดู แล้วแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งแม่ไม่ได้หลบหนีไปไหน ได้รอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ นางรุ่ง เพื่อนบ้าน บอกว่า เห็นนายสมศักดิ์ดื่มเหล้าเมาเป็นประจำและชอบมาขอเงินแม่ ทั้งที่ผู้เป็นแม่อายุมากมีรายได้เพียงเบี้ยผู้สูงอายุ ส่วนข้าวเปลือกลูกสาวคนโตก็เอามาให้ไว้กินครั้งละ 2-3 กระสอบ แต่นายสมศักดิ์ ลูกชายก็แอบขโมยไปขายหลายครั้ง แม่ห้ามตลอดจนมีปากเสียงกันบ่อย จนครั้งล่าสุดลูกชายเมามาและจะเอาข้าวเปลือกไปขายอีก ยายจึงต่อว่าแต่ลูกชายก็ไม่พอใจจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น คิดว่ายายคงไม่ตั้งใจคงจะแค่ป้องกันตัวเท่านั้น และคิดว่าหากนายสมศักดิ์ยอมไปหาหมอเพื่อรักษาบาดแผลก็คงจะไม่เสียชีวิต รู้สึกเห็นใจและสงสารยาย
ขณะที่เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานางตึ่ง ผู้เป็นแม่ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” และปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนีและเข้ามอบตัวเอง