กาฬสินธุ์ - แชร์สนั่น หน่วยกู้ภัยกาฬสินธุ์ช่วยงมหาศพหนุ่มวัย 17 ปีช่วยน้องชายลื่นตกน้ำจนสุดท้ายหมดแรงจมน้ำเสียชีวิต แต่ขณะนำศพขึ้นมาอาสาสมัครกู้ภัยหวิดวางมวยกันเองเหตุกลัวถูกแย่งศพ ท่ามกลางสายตาญาติและชาวบ้านจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนจมน้ำเสียชีวิตที่ลำห้วยทราย อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงประสานอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยต่างๆ และทีมกู้ชีพโรงพยาบาลร่องคำเข้าให้การช่วยเหลือ
โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณฝ่ายกั้นน้ำลำห้วยทราย น้ำลึกกว่า 5 เมตร นักประดาน้ำอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันงมหาร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมา ทราบชื่อคือ นายณัฐภูมิ สวนดี อายุ 17 ปี ชาวบ้านหนองตาไก้ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตมาตกปลาที่บริเวณดังกล่าวกับญาติรวม 3 คน ระหว่างนั้นน้องชายคนเล็กได้ลื่นตกลงไปในน้ำ ทำให้นายนายณัฐภูมิ ซึ่งเป็นพี่ชายได้ลงไปช่วยน้องขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเองลื่นขึ้นมาไม่ได้จึงหมดแรงจมลงไปในหนองน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่อาสาสมัครกู้ภัยร่วมใจกาฬสินธุ์ได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาแล้ว กลับมีเหตุการณ์ที่ญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้านรับไม่ได้เกิดขึ้น เนื่องจากมีชายแต่งชุดอาสาสมัครกู้ภัยหน่วยงานหนึ่งส่งเสียงดังเอะอะโวยวายในลักษณะตำหนิและด่าอาสาสมัครกู้ภัยกุดหว้า พร้อมกับเดินเข้าไปพยายามใช้ศอกทำร้ายร่างกายอาสาสมัครกู้ภัยกุดหว้าคนหนึ่ง
แต่มีผู้เข้ามาห้ามไว้ได้ก่อนที่จะวางมวยทำร้ายร่างกายกัน ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่ดูอยู่และญาติผู้เสียชีวิตที่กำลังเสียใจ โดยมีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอได้บางช่วงบางตอน
ทั้งนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวได้มีการแชร์ภาพกันในโลกออนไลน์จำนวนมาก ประกอบกับมีการโพสต์ภาพลูกกระสุนปืนและอาวุธปืน พร้อมทั้งข้อความในลักษณะข่มขู่ของอาสาสมัครกู้ภัยรายหนึ่ง ทำให้ชาวบ้านที่เห็นคลิปเกิดความสงสัยว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากอาสาสมัครกู้ภัยรายนี้กลัวว่าจะมีหน่วยกู้ภัยอื่นมาแย่งศพคนจมน้ำที่ทางหน่วยกู้ภัยร่วมใจเป็นผู้งมศพขึ้นมาได้หรือไม่ เนื่องจากมีการนำผ้าขาวมาปูเตรียมไว้ที่เปลวางศพ
ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เห็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เพราะการเข้ามาทำหน้าที่ของอาสาสมัครกู้ภัยนั้นต้องทำงานเสียสละให้แก่สังคม และอยากเห็นหน่วยกู้ภัยทำงานร่วมกันอย่างสามัคคีกลมเกลียว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางอำเภอกมลาไสยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย และเตรียมเรียกตัวมาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น