ปิดฉากไปแล้ว “งานมหกรรมโปงลาง แพรวา กาฬสินธุ์ ประจำปี 2563” จัดขึ้น 26 ก.พ.-6 มี.ค... ตลอด 10 วัน 10 คืน... สิ่งที่เห็นนั้นคือความตั้งใจจริงของทุกหน่วยงาน โดยการนำของ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่ต้องการให้งานเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ประชาชนและนักท่องเที่ยวพึงพอใจในมรดกวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน “โปงลาง” ซึ่งมีถิ่นกำเนิดที่ “กาฬสินธุ์”
อย่างไรก็ตาม ได้มีเรื่องฉาวข้างขอบเวทีประกวดโปงลาง ถ้วย ก. ข. ค. เกิดเสียงสะอื้นในคำตัดสินของคณะกรรมการผู้ให้คะแนน...ลือสะพัดภายในว่ามีการล็อกสเป็กวงโปงลางที่เข้าประกวดจนมีการนำปัญหานี้มาถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง..หลายฝ่ายถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความเสื่อมการจัดเวทีประกวดโปงลางฯดังกล่าว และปฏิเสธไม่ได้ว่าคณะกรรมการตัดสินฯ คือเป้าใหญ่ที่ทำให้ผลการประกวดออกมาอย่างไม่เป็นธรรม ไร้ซึ่งความเที่ยงตรงใสสะอาด
.....หากฟังดูผ่านๆ คนทั่วไปที่ไม่เคยทำวงโปงลางคงไม่คิดมากอะไร...ซ้ำร้ายยังจะหาว่าขี้แพ้ชวนตี.... แต่สำหรับคนทำวงโปงลางเขารู้สึกถูกดูถูกฝีมือและเจ็บปวดเหมือนถูกขืนใจ...จะเชื่อหรือไม่ว่าการให้คะแนนครั้งนี้ไม่มีหลักวิทยาศาสตร์ใดๆ มาเป็นเกณฑ์ เอาแค่ว่า..วงนี้ใครเชียร์ยกมือขึ้น...แล้วค่อยเกลี่ยคะแนน!!
ที่ชวนขนหัวลุก....ก่อนเปิดงานผู้รับผิดชอบเริ่มสงสัยแล้วว่างานนี้มีใบสั่ง..แต่ก็ไม่รู้จะแก้อย่างไร.. จะด้วยความอึมครึมจากสิ่งแวดล้อม หรืออาจเพราะต่างคนต่างสาละวนอยู่กับการเตรียมงานใหญ่ฯ...แล้วใคร?.. เป็นเจ้าภาพจัดการประกวด?..และใคร? ออกกฎเกณฑ์คำตัดสินนี้...
การจัดประกวดฯ มีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นเจ้าภาพหลัก และมีวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ เป็นผู้ดำเนินการ ออกแบบหลักเกณฑ์และจัดหาคณะกรรมการมาตัดสินการประกวด ทั้งในรอบวีซีดี-รอบชิงชนะเลิศ ณ เวทีกลาง
...ถึงจุดนี้แล้วจะอย่างไร..การแข่งขันมหกรรมโปงลางฯ ... ผู้ฝึกสอนทั่วฟ้าเมืองไทยใครๆ ก็คาดหวังนำวงโปงลางมาประชัน.... เพราะหวังได้โชว์ลีลาร่ายรำให้ “ผู้รู” ได้พิจารณาตัดสินให้รู้ผลแพ้ชนะแบบถึงพริกถึงขิง ..หากแพ้จะได้นำไปแก้ไขพัฒนา หรือหากชนะปีหน้าก็จะกลับมาป้องกันแชมป์อีก ที่สำคัญ นี่คือการต่อยอดสืบสานอนุรักษ์ดนตรีโปงลางฯ
การนำวงมาแข่งในแต่ละครั้งจึงต้องใช้เวลาฝึกสอนลูกศิษย์กันอย่างหามรุ่งหามค่ำ..วงใหม่ๆ อาจจะเป็นแรมเดือนแรมปี....จึงไม่แปลกเมื่อมีเหตุการณ์นี้จะต้องโวยวายให้รู้จริง..
หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน การประกวดที่กาฬสินธุ์เรียกได้ว่ามีวงโปงลางมายื่นใบสมัครจนต้องเข้าคิว แต่ละปีไม่ต่ำกว่า 20-30 วง ...แต่นับถอยหลังไป 5 ปี ..ถึงปัจจุบันได้ลดน้อยถอยลง.. หรือแต่ละวงอาจจะว่าโดนคุณไสยหรือมนต์ดำทำให้ “ผู้ทำวง” เลิกส่งเข้าประกวด โดยเฉพาะปีนี้เฉพาะ ถ้วย ก. ซึ่งเป็นภาคประชาชน ผ่านเข้ามาแข่งขันชิงรางวัลกันมีแค่ 3 วงเท่านั้น
หากปัญหายังเป็นอยู่อย่างนี้...เชื่อขนมกินได้! อีกไม่กี่ปีข้างหน้างานประกวดวงโปงลางกาฬสินธุ์จะเหลือแค่ตำนานเรื่องเล่าจากปากผู้เฒ่าศิลปินโปงลางรุ่นเก่าๆ
ปัญหานี้ได้สร้างความเสียหายต่อศิลปะการแสดงดนตรีพื้นบ้านโปงลางกาฬสินธุ์อย่างรุนแรง.. “ไอ้โม่ง” จะรู้หรือไม่ว่า ... การหันหลังของกลุ่มศิลปินผู้สร้างสรรค์วงโปงลาง...จากหลายสถาบันในหลายๆ จังหวัดนั้น.. เกิดจากความเสื่อมถอย ขาดความศรัทธา เพราะขาดความเอาใจใส่อย่างจริงจังของผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมนี้.... จนทำให้การประกวดดนตรีโปงลางดูด้อยค่า
ทั้งที่ “โปงลาง” คือเครื่องดนตรีที่มีต้นกำเนิดจาก นายเปรื่อง ฉายรัศมี ศิลปินแห่งชาติ และเป็นศิลปินของวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ ..แต่กลับถูกละเลย..เครื่องดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์...ถูกปู้ยี่ปู้ยำจากคนเพียงไม่กี่คนที่เห็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านอีสานเป็นเรื่องล้อเล่น... ว่าข้าคือกรรมการตัดสิน จะให้ใครชนะก็ได้... รู้แบบนี้แล้วเชื่อว่า พ่อเมืองน้ำดำ คงจะไม่อยู่นิ่งเฉย!!