ลำปาง – สภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง นำกรรมการยาเสพติดเผาทิ้งกัญชาที่ไกล้เก็บเกี่ยวกว่า 100 กิโลกรัม หลังพบติดไรแดงเกรงระบาดเข้าโรงปลูก
ผู้แทนนายอำเภอแจ้ห่ม หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตร ผู้แทนสาธารณสุขจังหวัด ผู้แทนผู้กำกับ สภ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ได้ร่วมเป็นกรรมการและเป็นสักขีพยานในการเผากัญชาตัวผู้ ภายในสวนเกษตรอนทรีย์เพชรลานนา ต.แม่สุก อ.แจ้ห่ม แปลงปลูกกัญชาของเกษตรกรแปลงแรกอย่างเป็นทางการของประเทศไทย ที่ดำเนินการในนามวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์เพชรลานนา จ.ลำปาง
หลังพบว่ากัญชาติดโรคไรแดง กัญชาตาย กัญชาใบร่วงทิ้ง จึงนำมาเผาทิ้งเมื่อเย็นวานนี้ รวม 132.83 กก.และดินปลูกที่ติดเชื้อรา 307 กก. เพราะเกรงว่าจะแพร่ระบาดเข้าโรงปลูกกัญชา
ทั้งนี้แปลงปลูกกัญชาแปลงแรก แปลงนี้ได้เริ่มปลูกเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.62 ภายใต้โครงการขับเคลื่อนการปลูกกัญชานำร่องเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวภายหลังพิธีเปิดโครงการดังกล่าวว่า จากการพยายามผลักดันของสภาเกษตรกรแห่งชาติ ทำให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษและกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งนำไปสู่การแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ยังผลให้หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการให้บริการทางเกษตรกรรมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือเภสัชกรรม เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาวิจัยพืชสมุนไพร "กัญชา" เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์
โดยได้ปลูกแบบอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมีเพื่อให้คุณค่าทางยาสูงที่สุดและไม่มีสิ่งปนเปื้อนที่เป็นพิษต่อร่างกาย แบ่งเป็นสองระบบคือในโรงเรือนระบบปิด 800 ต้น และนอกโรงเรือนในระบบปิด 1,200 ต้น รวม 2,000 ต้น และปลายเดือนมีนาคม 63 นี้ จะสามารถเก็บเกี่ยวใบ ต้น ราก ยกเว้นดอก รุ่นแรกให้กับโรงพยาบาลเด่นชัย ประมาณ 400-500 กิโลกรัม แต่หากมีการเก็บในเดือนพฤษภาคมก็อาจจะได้ดอกบ้าง
แต่การปลูกในช่วงนี้ถือเป็นการปลูกนอกฤดูกาล จึงอาจจะไม่ได้ผลผลิตเต็มตามที่คาดไว้เหมือนปลูกในฤดูกาลคือปลูกหน้าฝนเก็บหน้าหนาว คือปลูก ก.ค.-ส.ค.และ เก็บ พ.ย.-ธ.ค.-ม.ค. ซึ่งจะทำให้ในรอบแรกอาจจะไม่ได้ผลผลิตตามจำนวนที่ตั้งไว้คือ 2 ตัน แต่ ในรอบต่อไปมีความเป็นได้ว่าจะได้ผลผลิตตามที่กำหนดไว้
ซึ่งแม้ว่าต้นกัญชาที่ปลูกในแปลงระบบปิดทั้งในโรงเรือนและนอกโรงเรือนเจริญเติบโตดีมาก แต่ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจึงทำให้มีการไรแดงเกิดขึ้น เพื่อป้องกันการระบาดสู่กัญชาในแปลง ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลจึงได้มีการถอนแบบขุดทั้งดินที่ปลูกออกจากแปลง และนำกัญชาตัวผู้ แห้ง ตาย ทำลายทิ้งด้วย ซึ่งก็ต้องใช้วิธีเผาทิ้งในเตาเผาแบบปิด ตามเอกสารขอปลูกต่อคณะกรรมการยาเสพติด