พิษณุโลก - เศร้าสลดสะเทือนใจกันทั้งอำเภอ..เยาวชนประวัติเข้าออกสถานพินิจหลายครั้ง ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษก่อเหตุฆ่าปาดคอยายบ้านเดียวกันวัย 78 ปี ลากศพหมกสวนข้าวโพด พบสภาพเปลือยท่อนล่าง บอกขอเงินแล้วไม่ได้
วันนี้ (6 มี.ค.) พ.ต.ท.เสน่ห์ พรมรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก รับแจ้งพบศพหญิงสูงอายุถูกฆ่าหมกศพทิ้งกลางสวนข้าวโพดหลังบ้าน จึงรายงาน พ.ต.อ ธรธวัช แจ่มอุดมโชต ผกก.สภ.นครไทย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพยุพราชนครไทย และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง เลขที่ 3 หมู่ 9 บ้านหนองตะโพน ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก อยู่ห่างจากถนนบ้านแยง-นครไทย ประมาณ 300 เมตร บริเวณหลังบ้านซึ่งเป็นสวนข้าวโพดลึกประมาณ 20 เมตร พบศพของนางเหมือน ขุนจำนงค์ อายุ 78 ปี เจ้าของบ้าน ในสภาพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อลายสีแดง กางเกงชั้นในถูกถลกลงมาอยู่บริเวณหัวเข่า ใกล้กันพบผ้าถุงของผู้ตายกองอยู่
จากการตรวจสอบพบบาดแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะ 2 แห่ง รอยแตกที่คิ้วด้านซ้ายและบาดแผลขนาดใหญ่ถูกของมีคมที่บริเวณลำคอ จนหลอดลมขาด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง และมีร่องรอยการต่อสู้บริเวณจุดเกิดเหตุจนต้นข้าวโพดล้มราบกับพื้น และพบกองเลือด-รอยเท้าทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บหลักฐาน
ต่อมาญาติได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงบุคคลที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ชื่อนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เป็นเยาวชนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน อยู่ห่างจากบ้านผู้เสียชีวิตประมาณ 500 เมตร มีพฤติกรรมชอบลักขโมยเป็นประจำ และเพิ่งพ้นโทษออกมาจากสถานพินิจได้ไม่นาน
พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชคดี ผกก.สภ.นครไทย จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายเอ (นามสมมติ) ไปสอบปากคำที่ สภ.นครไทย และได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่านางเหมือน ขุนจำนงค์ จริง หลังจากเดินมาขอเงินผู้ตายแล้วไม่ยอมให้ จึงลงมือทุบหัวแล้วลากไปที่สวนข้าวโพดก่อนใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาด้วยปาดคอยายเหมือนจนถึงแก่คความตายแล้วลากศพไปทิ้ง แต่ระหว่างลากศพผ้าถุงยายได้หลุดออกจากตัว ไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด จากนั้นก็หลบหนีไปพร้อมกับเงินของผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง นำไปซื้อโทรศัพท์และใช้เที่ยวเตร่จนเหลือเงินติดตัวเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง และร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ
