สระบุรี - อึ้ง!! หลังเจ้าหน้าที่ ทลายแหล่งรีไซเคิลหน้ากากอนามัย ล่าสุด พบยอดจำหน่ายไปแล้วกว่า 2 แสนชิ้น เตรียมส่งฟ้องศาลจังหวัดสระบุรี พรุ่งนี้
วันนี้ (3 มี.ค.) เวลา 14.00 น. ที่ สภ.วิหารแดง พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตรีโสภณ ผกก.สภ.วิหารแดง ร่วมแถลงข่าวทลายแหล่งรีไซเคิลหน้ากากอนามัย ซ้ำเติมไวรัสโควิด-19 จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่บูรณาการกำลังบุกเข้าตรวจสอบแหล่งผลิตหน้ากากอนามัยรีไซเคิล กองมหึมา ขณะกลุ่มวัยรุ่นกำลังช่วยกันซักรีด พับใส่กล่องเตรียมส่งจำหน่าย ซ้ำเติมภัยไวรัสร้ายแรงโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนางจินตนา นามวิชัย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/4 ม.6 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี พร้อมด้วยนางวีราภรณ์ ธงสันเทียะ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 ม.6 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี และนางพิมพ์วลัญช์ จำรัสศรี อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 601/430 ม.4 ต.บางปูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี มาทำการสอบสวนเบื้องต้น เพื่อหาสาเหตุในการทำรีไซเคิลหน้ากากอนามัย
โดยทั้ง 3 คน ได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า น.ส.จินตนา นามวิชัย ได้ร่วมกันกับ น.ส.พิมพ์วลัญช์ จำรัสศรี ร่วมกันทำกิจการรับซื้อของเก่าต่างๆ และได้ซื้อหน้ากากอนามัยจากร้านเบิ้มค้าของเก่า ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอวิหารแดง โดยได้ทำการประมูลของจากโรงงานแห่งหนึ่ง นำมาคัดแยกหน้ากากอนามัยส่วนที่ยังมีสภาพดี หรือที่ยังไม่ชำรุด จะนำมาผ่านกระบวนการเพื่อนำไปจำหน่ายใหม่ โดยได้ว่าจ้าง น.ส.วีราภรณ์ ธงสันเทียะ น้องสะใภ้ของ น.ส.จินตนา และกลุ่มเพื่อนของบุตรชาย น.ส.จินตนา โดยวิธีการนำหน้ากากอนามัยมาทำความสะอาดด้วยเครื่องซักผ้าทำความสะอาดทั่วไป
จากนั้นจะนำมาปั่นแล้วตากให้แห้ง นำมารีดให้เรียบ แล้วนำบรรจุกล่องเพื่อรอจำหน่าย โดย น.ส.พิมพ์วลัญช์ จำรัสศรี จะเป็นผู้ติดต่อจำหน่ายให้แก่ผู้สนใจซื้อ ในราคาชิ้นละ 3 บาท โดยวิธีการประกาศขายผ่านเฟซบุ๊กของ น.ส.พิมพ์วลัญช์ ที่ชื่อว่า “ไจว่าง วางไว้เพื่อใส่บุญ” ซึ่งคนทั่วไปสามารถเห็นโพสต์ หรือประกาศขายได้ โดยทั้ง 3 คน สารภาพว่าได้ขายหน้ากากอนามัยไปแล้วกว่า 2 แสนชิ้น ทั้งทางออนไลด์ และท้องตลาด
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิดสภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ร่วมกันประกอบอาชีพค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทางด้าน พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี กล่าวว่า ทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ ซึ่งตนเองไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากเห็นหน้ากากอนามัยที่รับซื้อมามีสภาพใหม่ และยังเป็นที่ต้องการของตลาด และขาดแคลนในปัจจุบัน ดังนั้น ทั้ง 3 คนจึงได้ร่วมกันนำหน้ากากอนามัยมารีไซเคิลออกจำหน่าย ส่วนทางด้านพื้นที่ที่ผลิต เจ้าหน้าที่จะกันไว้เป็นพื้นที่อันตราย โดยจะให้ทางสาธารณสุขเข้าฉีดพ่นยาเพื่อป้องกันเชื้อแพร่กระจายไว้ก่อน และจะดำเนินการขยายผลแหล่งที่มาของหน้ากากอนามัย พร้อมจะติดตามสืบหาลูกค้าที่ซื้อหน้ากากอนามัยไปใช้งาน ซึ่งในวันที่ 4 มี.ค.63 เวลา 09.00 น.จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปส่งฟ้องศาลจังหวัดสระบุรี