xs
xsm
sm
md
lg

โจรงัดบ้านหนุ่มใหญ่เมืองอ่างทอง พังตู้เซฟฉกทรัพย์สินกว่าล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อ่างทอง - โจรงัดบ้านหนุ่มใหญ่เมืองอ่างทอง พังตู้เซฟฉกทรัพย์สินกว่าล้านบาท ซึ่งเจ้าของบ้านอยู่โรงพยาบาลหลังถูกไฟฟ้าช็อตมาเดือนกว่า ให้น้องเมียชาวพม่าเฝ้าบ้าน ก่อนไปเที่ยวงานวัด กลับมาพบว่าบ้านโดนงัด คนร้ายทิ้งชะแลงเหล็กไว้เป็นหลักฐาน

วันนี้ (3 มี.ค.) พ.ต.ท.หมัดอุเส็น เหมาะสนิ สารวัตรสอบสวน สภ.แสวงหา รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ บ้านเลขที่ 11/2 ม.9 ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แสวงหา รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบภายในรั้วบ้านมีบ้านปูนชั้นเดียวอยู่จำนวน 2 หลัง พบ น.ส.ชลธิชา ฉลูทอง อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวให้การว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุเจ้าของคือ นายขจร ฉลูทอง อายุ 43 ปี น้องชาย ซึ่งไม่อยู่บ้าน นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะบาดเจ็บจากการถูกไฟฟ้าช็อตมาเดือนกว่าแล้ว และได้จ้างน้องสะใภ้ ซึ่งเป็นชาวพม่าทราบชื่อคือ PAN CHERRY HTWE อายุ 31 ปี เฝ้าบ้าน

และเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ตนได้รับแจ้งจาก นาง PAN ว่า บ้านถูกงัดและตู้เซฟซึ่งอยู่ในห้องนอนของน้องชายถูกงัดทำลาย ตนพร้อมญาติรีบไปตรวจสอบทรัพย์สินภายในตู้ เบื้องต้นพบว่า ทรัพย์สินของน้องชายที่หายไปมีโฉนดที่ดิน 2 แปลง สร้อยคอทองคำหลายเส้น น้ำหนักรวม 12 บาท พระเลี่ยมทอง เงินสดจำนวนหนึ่ง และสมุดธนาคาร จากนั้นรีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน นาง PAN ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ได้ออกไปเที่ยวงานวัดที่อยู่ใกล้บ้าน และกลับเข้าบ้านในช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. พบว่าประตูบ้านถูกงัดและตู้เซฟที่อยู่ภายในห้องนอนถูกงัด ทรัพย์สินที่อยู่ภายในตู้หายไป

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นพบว่า ประตูบ้านมีร่องรอยถูกงัดเสียหาย ห่วงที่คล้องพร้อมกุญแจหลุดหายไป และพบตู้เซฟภายในห้องนอนของเจ้าของบ้านซึ่งไม่ได้ล็อกประตูห้อง และตู้เซฟถูกงัดเปิดออก และมีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน และทรัพย์สินภายในเซฟสูญหายไป เมื่อตรวจสอบบริเวณบ้าน พบชะแลงเหล็กตกอยู่ที่สนามหญ้าบริเวณหลังบ้าน และยังพบร่องรอยล้อรถยนต์

น.ส.ชลธิชา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ นาง PAN ชาวพม่า ซึ่งเป็นน้องเมียเจ้าของบ้านผู้เสียหาย ได้พาเพื่อนมาดื่มสุราภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งทางญาติติดใจสงสัยคาดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวนขยายผลตามกฎหมายต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น