กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านและศิษย์เก่าโรงเรียนดงบังวิทยา จ.กาฬสินธุ์ สุดทน ผอ.โรงเรียนจ้างตัดต้นพะยูงอายุกว่า 60 ปี ถูกตัดกว่า 4 ต้น โดยไม่ได้ประชุมหรือขออนุญาตจากชาวบ้าน และหน่วยงานต้นสังกัด เตรียมแจ้งความตำรวจ และธนารักษ์
จากกรณีชาวบ้านดงบัง ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สงสัยเหตุมีคนลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงด้านหลังอาคารเรียนโรงเรียนดงบังวิทยา โดยได้ตัดและขนย้ายไม้พะยูงอายุ 60 ปี ไป 4 ต้น เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ทิ้งให้เหลือเพียงตอและกิ่งไม้แห้ง จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (26 ก.พ. 63) ที่โรงเรียนดงบังวิทยา ชาวบ้านและศิษย์เก่าโรงเรียนดงบังวิทยากว่า 50 คน นำโดย นายวีระพรรณ ไชยมาตร์ ผู้ใหญ่บ้านดงบัง หมู่ 9 และนายศุภกร จันทร อายุ 43 ปี ตัวแทนศิษย์เก่า ได้เข้าตรวจสอบท่อนไม้พะยูงแปรรูปจำนวนหนึ่งที่เก็บไว้ภายในหอประชุม และตอไม้พะยูงที่อยู่บริเวณด้านหลังอาคารเรียน จำนวน 4 ตอ ซึ่งมีขนาดประมาณ 1 คนโอบ
การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ชาวบ้านและศิษย์เก่าโรงเรียนดงบังวิทยาอ้างว่าผู้อำนวยการโรงเรียนได้ว่าจ้างคนต่างหมู่บ้านเข้ามาตัดไม้พะยูง โดยไม่ได้ประชุมคณะกรรมการโรงเรียน หรือคณะกรรมการหมู่บ้าน เป็นพฤติการณ์ที่น่าสงสัยถึงความไม่โปร่งใส เพราะในพื้นที่ใกล้เคียงเคยมีประวัติไม้พะยูงถูกคนร้ายลักลอบตัดและขนย้ายหนีมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
นายวีระพรรณ ผู้ใหญ่บ้านดงบัง หมู่ 9 กล่าวว่า ตามที่เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้พบต้นพะยูงถูกตัดจำนวน 4 ต้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร (ซม.) แก่นไม้เส้นผ่านศูนย์กลาง 20 ซม. โดยไม้ถูกตัดเป็นท่อนขนาดความยาว 2-3 เมตร บรรทุกใส่รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก 6105 นครปฐม มีชายจำนวน 3 คนเข้ามาตัดไม้
ทราบภายหลังว่าผู้อำนวยการโรงเรียนดงบังวิทยาเป็นคนสั่งให้ตัดไม้ ทำให้ชาวบ้านเกิดความสงสัย และเข้าแจ้งเหตุต่อตนเพื่อให้อายัดไม้พะยูงไว้ก่อน ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง อ.ยางตลาด เข้าตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย จึงมีการรวมตัวกันในวันนี้เพื่อรับฟังคำชี้แจงและตรวจสอบท่อนไม้พะยูงที่ถูกตัดดังกล่าว
ด้าน นางสาวนิภาพร ภูผิวฟ้า อายุ 30 ปี ตัวแทนศิษย์เก่ารุ่นปี 32 กล่าวว่า จากคำชี้แจงของผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ระบุว่าเป็นผู้จ้างคนมาตัดไม้พะยูงจริงเพื่อประโยชน์ใช้สอยในการทำซุ้มประตูและฝ้าเพดาน ซึ่งชาวบ้านและศิษย์เก่าฟังแล้วไม่สมเหตุสมผล เพราะไม่มีการประชุมเพื่อขอมติก่อนตัดแล้ว ยังไม่จำเป็นจะต้องตัดไม้พะยูงที่ชาวบ้านและศิษย์เก่าร่วมกันปลูกไว้เป็นสมบัติของโรงเรียน และเป็นเอกลักษณ์ของบ้านดงบังที่มีต้นไม้ใหญ่และไม้พะยูงเป็นป่าชุมชนของหมู่บ้าน แต่เหตุที่เกิดขึ้นมีคนร้ายลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในพื้นที่ใกล้เคียงหลายครั้ง และล่าสุดผู้อำนวยการโรงเรียนจ้างคนมาตัดไม้พะยูงไปแปรรูป เป็นเหตุที่ชาวบ้านรับไม่ได้ หากจะทำฝ้าเพดานจริงสามารถใช้ไม้ชนิดอื่นได้ไม่จำเป็นต้องตัดไม้พะยูงที่มีมูลค่าและชาวบ้านหวงแหน
ขณะที่ นายกิตติชัย ไกรพินิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนดงบังวิทยา กล่าวว่า การตัดไม้พะยูงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประชุมตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 62 ว่าจะมีการทำซุ้มประตูโรงเรียน โดยใช้ไม้ราชพฤกษ์เป็นเสา และใช้ไม้พะยูงทำฝ้าเพดานเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยจะตัดไม้พะยูงที่ยืนต้นตาย 2 ต้น แต่ไม้พะยูงที่ยืนต้นตายดังกล่าวไม่เพียงพอ จึงได้ตัดไม้พะยูงเพิ่มอีก 2 ต้น ส่วนขั้นตอนตัดไม้ ตนยอมรับว่าได้ทำข้ามขั้นตอน ยังไม่ได้ขออนุญาตจากธนารักษ์ ตนจะทำเรื่องขอใหม่ ทั้งทำหนังสือชี้แจงต่อสำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ด้วย และได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.โนนสูง ยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการตัดไม้พะยูงแล้ว
จากการตรวจสอบท่อนไม้พะยูงและตอไม้พะยูงที่ถูกตัด ชาวบ้านและศิษย์เก่าโรงเรียนดงบังวิทยาระบุว่ายังได้คืนมาไม่หมด สงสัยว่าความยาวไม้พะยูงที่ถูกตัดเป็นท่อนเก็บไว้ที่หอประชุมนั้นยาว 2-3 เมตร คล้ายกับท่อนไม้พะยูงที่มีขบวนการลักลอบตัดและซื้อขายกัน จึงได้เตรียมเอกสารแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูงดำเนินคดี และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ซึ่งรับผิดชอบไม้พะยูงในสถานที่ราชการด้วย ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรต่อกรณีผู้บริหารโรงเรียนสั่งตัดไม้พะยูงก่อนขออนุญาตดังกล่าว