สระแก้ว - สุดช้ำ! พ่อเฒ่าวัย 77 ปี ใน จ.สระแก้ว ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกเอาเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต จำนวน 4 แสนบาทหนีลอยนวล หลังทำทีพาไปดูที่ดินติดจำนองและต้องใช้เงินสดไถ่ถอนจากแบงก์จึงจะขายให้ในราคาถูก พร้อมจ่ายค่านายหน้าอย่างงาม สุดท้ายสูญเงิน ซ้ำไม่ได้อะไรเลย
วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบรรหาร เปี่ยมทอง อายุ 77 ปี ชาว อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ว่า ถูกแก๊ง 18 มงกุฎหลอกให้ไปเบิกเงินสดจำนวนมากถึง 4 แสนบาท ก่อนเชิดเงินจำนวนดังกล่าวหลบหนีไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จนทำให้ลูกชายต้องโพสต์เรื่องราวเตือนภัยลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อป้องกันไม่ให้มีชาวบ้านหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพ
นายบรรหาร กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้มีแก๊งมิจฉาชีพทำทีตระเวนหาบ้านเช่าในชุมชน โดยอ้างตัวเองว่าเป็นผู้จัดการธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งที่ต้องการหาเช่าบ้านให้ลูกน้องพัก ก่อนจะออกอุบายขอดูบ้านเช่าของตนเองภายในซอยบ้านวังจำปี ม.6 เขตเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น ที่ติดป้ายให้เช่าบ้านไว้ กระทั่งแก๊งมิจฉาชีพได้ตกลงที่จะเช่าบ้านหลังดังกล่าว และบอกให้ทำความสะอาดเตรียมไว้ จึงได้มีการว่าจ้างคนงานและญาติให้เข้ามาทำความสะอาด
และในวันต่อมา มิจฉาชีพซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี ที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการธนาคาร ได้เดินทางมาพร้อมกับหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงินเป็นพาหนะ ได้ชวนตนเองไปกินข้าวและขอร้องให้พาไปดูที่ดินภายในซอยตรงข้ามโรงพยาบาลวังน้ำเย็น และได้พบกับชายอีกคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน และต้องการขายที่ดินในราคา 150,000 บาท
ทั้งนี้ หากมีผู้ซื้อที่ดินทั้ง 50 ไร่ ก็จะลดราคาให้อีก จากนั้นได้มีมิจฉาชีพอีกทีมทำทีขับรถตามมาและบอกว่าจะซื้อที่ดิน โดยจะได้ค่านายหน้าและส่วนต่างราคาที่ลดให้อีกไร่ละ 4 หมื่นบาท แต่เจ้าของที่ดินอ้างว่าที่ดินติดจำนองธนาคาร และต้องหาเงินไปไถ่ถอนก่อน
"คนซื้อบอกมีเงินมาไม่พอเพราะมีเงินแค่ 3 แสนบาท จึงหันมาถามว่าลุงมีเท่าไร จึงบอกเขาไปว่า มีเงินในบัญชี 4 แสนกว่าบาท มิจฉาชีพกลุ่มนี้ก็หลอกให้ไปถอนเงินจาก ธ.ก.ส.จากนั้นจึงพากันเดินทางไปยังที่ดินที่ตกลงว่าจะซื้อขาย แต่ระหว่างที่รถวิ่งมาถึงร้านเครื่องเขียน มิจฉาชีพได้ออกอุบายให้ลงไปถ่ายสำเนาบัตรประชาชน ซึ่งแก๊งมิจฉาชีพบอกว่าจะขอนำเอกสารไปให้เจ้าของที่ดินก่อนและจะกลับมารับ ซึ่งรอนานประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ไม่กลับมาจนต้องนั่งรถตุ๊กตุ๊กกลับมาบ้านเอง"
นายบรรหาร ยังบอกอีกว่า ตนเองรู้ตัวว่าถูกหลอกก็เมื่อนำเรื่องมาปรึกษาน้องสาวและญาติ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.วังน้ำเย็น และได้ชี้ภาพผู้ต้องสงสัยจากภาพบัตรประชาชนให้ตำรวจดูแต่เรื่องก็เงียบหายไป
พร้อมบอกอีกว่า เงินก้อนนี้เป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตที่ตั้งใจว่าจะแบ่งให้ลูก 4 คน คนละ 1 แสน แต่ไม่คิดว่าจะถูกหลอกเช่นนี้ จึงอยากให้มิจฉาชีพนำเงินมาคืน หรือขอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปทำกับคนอื่นอีก
อย่างไรดี ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังมีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวลงในโลกสังคมออนไลน์ พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น ได้ประสานให้ญาติและผู้เสียหายไปให้ข้อมูลและชี้เบาะแสแก๊งต้มตุ๋นเพิ่มเติม และหากข้อมูลตรงกับที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรวบรวมได้ ก็สามารถยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดสระแก้ว เพื่อออกหมายจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ทันที