ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผญบ.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ระบุ 2 สามีภรรยาเดินเท้าจากเมืองโคราชกลับชลบุรีจนเป็นข่าวโด่งดังไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎรตามที่ระบุเป็นข่าวในโลกออนไลน์ ซ้ำเจ้าของบ้านตัวจริงชื่อตรงกันโผล่ ยันไม่รู้จักวอนตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากกรณีที่เพจแห่งหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวของ 2 สามีภรรยาคือ นายจำเริญ สุภะตะ อายุ 36 ปี ซึ่งระบุว่า อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 78 ม.1 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี และนางแถว สีทอง อายุ 53 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่ต้องเดินเท้ากลับบ้านที่ จ.ชลบุรี หลังไปรับจ้างทำงานก่อสร้างใน จ.นครราชสีมา แต่กลับถูกนายจ้างลอยแพและไม่จ่ายเงินค่าจ้างจนทำให้ไม่มีเงินเหลือติดตัว
สุดท้ายต้องพากันเดินเท้ากลับบ้านใน จ.ชลบุรี และยังต้องอาศัยมะขามและกระถินริมทางกินประทังชีวิต ทำให้ประชาชนที่พบเห็นเกิดความสงสารพากันให้ความช่วยเหลือทั้งอาหารและน้ำ รวมทั้งให้เงินติดตัวเพื่อใช้ในการเดินทาง ขณะที่โลกสังคมออนไลน์พากันแชร์เรื่องราวดังกล่าวจนกลายเป็นข่าวโด่งดังนั้น
ล่าสุด ช่วงกลางดึกคืนวานนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ว่า เรื่องราวที่ถูกเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์อาจไม่ใช่เรื่องจริง จึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบและเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 78 ม.1 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ที่ถูกระบุว่าเป็นบ้านของ นายจำเริญ สุภะตะ
โดยได้พบกับเจ้าของบ้านซึ่งมีชื่อว่า นายจำเริญ แน่นหนา อายุ 45 ปี ที่อาศัยอยู่กับภรรยาเพียง 2 คน พร้อมระบุว่า หลังจากได้เห็นข่าวในโลกสังคมออนไลน์ และในทีวีช่องต่างๆ ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และขอยืนยันว่า 2 สามีภรรยาที่เดินเท้าจาก จ.นครราชสีมา มายัง จ.ชลบุรี ที่ถูกระบุว่าผู้สามีชื่อ จำเริญ นั้นคนละนามสกุลกับตนเอง และยังยืนยันอีกว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ที่อยู่ในข่าวอย่างแน่นอน
“ในทะเบียนบ้านที่แจ้งกับทางราชการก็มีกันแค่ 5 คน และไม่เกี่ยวกับคนที่อยู่ในข่าวพราะไม่ใช่ญาติและไม่รู้จักกัน เบื้องต้น ได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านให้ทราบเรื่องแล้วว่าทางครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เป็นข่าวอยู่ แต่ที่สงสัยคือ เหตุใดผู้ที่ตกเป็นข่าวทั้ง 2 คน จึงบอกว่าอยู่บ้านเลขที่เดียวกับทางครอบครัว” นายจำเริญ กล่าว
ด้าน นายพีรพัฒน์ แสงเลิศล้ำ อายุ 41 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี เผยว่า หลังจากที่รู้ข่าวจากลูกบ้านว่ามีการระบุชื่อและที่อยู่ของลูกบ้านตรงกับ 2 สามีภรรยาที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังในขณะนี้ ก็ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า ชื่อและนามสกุลของผู้ที่เป็นข่าวไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนราษฎร
“และจากการที่ได้ตรวจสอบไปยังเทศบาลตำบลหนองตำลึง เกี่ยวกับชื่อของ 2 สามีภรรยาที่เป็นข่าวว่าเป็นบุคคลในพื้นที่จริงหรือไม่ เพื่อที่จะได้ให้การช่วยเหลือแต่ไม่พบว่ามีอยู่ในสารบบ เบื้องต้น จึงคาดว่าผู้ที่ให้ข้อมูลอาจจะบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อันใด”
นายพีรพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.หนองตำลึง ยังฝากเตือนประชาชนเรื่องการเสพข่าวสารในโลกสังคมออนไลน์ว่า ควรพิจารณาให้รอบคอบว่าข่าวที่เกิดขึ้นเป็นข้อมูลที่แท้จริง หรือเป็นเพียงข่าวลวงเพื่อป้องกันการถูกหลอก และขอยืนยันว่า 2 สามีภรรยาที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังและมีคนสงสารทั่วประเทศ ไม่ใช่บุคคลในพื้นที่ และไม่มีรายชื่ออยู่ในสารบบของทะเบียนราษฎรใน ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี อย่างแน่นอน