อุบลราชธานี - เพลิงไหม้กลางชุมชนในหมู่บ้านจังหวัดอุบลราชธานี ขณะลมหนาวพัดแรง ทำให้บ้านวอดไป 5 หลัง เจ้าของบ้านร่ำไห้หมดเนื้อหมดตัว เจ้าหน้าที่รุดปลอบขวัญเยียวยาจิตใจ พร้อมเร่งของบช่วยซ่อมแซม สร้างใหม่
วันนี้ (17 ก.พ. 63) ร.ต.ท.รัฐพล พลแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 77 บ้านคูเมืองออก หมู่ 7 ต.คูเมือง อ.วารินชำราบ และขณะเกิดเหตุมีลมหนาวพัดกระโชกแรงทำให้เพลิงไหม้ลามอย่างรวดเร็วไปติดบ้านเรือนใกล้เคียงที่ปลูกอยู่ติดกันอีกหลายหลังคาเรือน จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิง อบต.คูเมือง เทศบาลตำบลเมืองศรีไค เทศบาลเมืองวารินชำราบ เทศบาลนครอุบลราชธานี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจำนวนกว่า 10 คันช่วยกันดับเพลิงไหม้
เมื่อรถดับเพลิงไปถึงบ้านต้นเพลิงที่เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ของนางพันธุ์ สายไหม อายุ 72 ปี ถูกเพลิงลุกไหม้รุนแรงเผาผลาญบ้านวอดเสียหายไปทั้งหลังแล้ว และเพลิงกำลังลุกลามไปยังบ้านที่อยู่ติดกันอีก 4 หลัง จึงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงนานเกือบ 1 ชั่วโมงไฟจึงได้สงบลง โดยเพลิงไหม้บ้านเสียหายแบบทั้งหลังไป 3 หลังคาเรือน และมีบ้านถูกไฟไหม้เสียหายเป็นบางส่วนอีก 2 หลังคาเรือน มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
จากการสอบถามนางพันธุ์ เจ้าของบ้านต้นเพลิงที่อยู่ในอาการตกใจและเสียใจจากเหตุเพลิงไหม้บ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเพลิงไหม้ นางพันธุ์กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวหลังบ้าน หลานสาวที่อยู่หน้าบ้าน ได้วิ่งเข้ามาบอกเกิดไฟไหม้ขึ้นจากชั้นที่ 2 ของบ้าน พร้อมรีบพาตัวนางพันธุ์หนีไฟออกมาจากบ้าน โดยไม่ได้ทรัพย์สินอะไรติดตัวออกมาเลย เพราะไฟได้โหมไหม้อย่างรวดเร็วจากลมหนาวที่พัดกระโชกแรงขณะเกิดเหตุ
ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากสายไฟเก่าที่ใช้มานานเกิดลัดวงจรทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานีจะได้เข้ามาตรวจที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนอีกครั้ง
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคูเมืองได้เข้ามาปลอบโยนพร้อมตรวจดูสุขภาพนางพันธุ์และเพื่อนบ้านที่บ้านถูกไฟไหม้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุให้คลายความวิตกกังวลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายทัศนัย วราพรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคูเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากอำเภอวารินชำราบ ได้เข้าสำรวจความเสียหายเพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนใช้ช่วยเหลือ ซ่อมแซมบ้านที่ถูกไฟไหม้ด้วยความรวดเร็ว พร้อมกล่าวเตือนประชาชนช่วงนี้มีสภาพอากาศร้อนและลมพัดแรง ก่อนออกจากบ้านต้องดับไฟถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าป้องกันไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ เพราะในพื้นที่มักเกิดเหตุไฟไหม้จากสภาพบ้านที่เก่าเป็นประจำ
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี รายงานสภาพอากาศวันนี้ถึงวันที่ 19 ก.พ. มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
