ชายแดนแม่สอด-เมียวดี - ชาวแม่สอด ตลอดจน จนท.ที่เกี่ยวข้องผวา COVID-19 ลาม..กลุ่มทุนจีนเจ้าของเมืองใหม่ไชน่าทาวน์-ซุ่ยโก๊กโก่ ออกกฎห้าม พนง.จีนที่เพิ่งกลับจากจีนเข้าพื้นที่ทันที ให้อยู่แม่สอดรอ 14 วัน-ขอใบรับรองแพทย์ก่อนข้ามฝั่งเมย
ขณะนี้บริษัท หย่าไถ้ (YATAI INTERNATIONAL HOLDING GROUP) อันเป็นกลุ่มบริษัทร่วมทุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เจ้าของโครงการ China Town ใหม่ของทุนจีนในพม่า ที่เรียกกันติดปากอยู่ในขณะนี้ว่า “ซุ่ยโก๊กโก่ : โก๊กโก่ทอง” ตรงข้าม ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด-อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ออกระเบียบใหม่เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 (COVID-19)
กำหนดให้กับพนักงานที่กลับประเทศจีนตอนตรุษจีนและกำลังจะกลับเข้ามาทำงาน ไม่ให้ข้ามกลับเข้าไปในพื้นที่ของเมืองใหม่ซุ่ยโก๊กโก่เด็ดขาด จะต้องพักอยู่ในพื้นที่ อ.แม่สอด ก่อนเป็นเวลา 14 วัน เมื่อครบ 14 วันแล้วจะต้องไปขอรับใบรับรองแพทย์ที่สถานพยาบาล เพื่อยืนยันว่าไม่เป็นโรค จากนั้นถึงจะกลับเข้าพื้นที่ไปได้ ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับด้วย
กรณีดังกล่าวเริ่มสร้างความตื่นตระหนกและวิตกกังวลให้กับผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนชาวแม่สอดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะระเบียบดังกล่าวจะทำให้ “ชายแดนแม่สอด” ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของไวรัสโควิส-19 มากขึ้นอย่างเลี่ยงไม่พ้น เพราะชาวจีนเหล่านี้จะต้องหาที่พักไม่ว่าจะเป็นโรงแรม เกสต์เฮาส์ ห้องเช่า ตลอดจนที่ดินที่ใช้ระหว่างที่ต้องพักรออยู่ในแม่สอดไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนข้ามไปฝั่งเมียวดี
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ ตม.-ฝ่ายปกครอง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแม่สอดก็ต้องร่วมกันออกตระเวนตรวจสอบตามสถานที่พักต่างๆ เพื่อค้นหาชาวจีนที่ลงเครื่องหรือเดินทางเข้าแม่สอดแล้วหลบเข้าพักรอ ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมที่พักบางรายก็ไม่ยอมแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีชาวจีนเข้าพัก ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดสูงขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ ภาคเอกชนตลอดจนเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเริ่มเรียกร้องให้รัฐบาลจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน โดยการงดออก visa on arrival ขณะที่ในระดับจังหวัด ผู้ว่าฯ ตาก ควรเร่งเจรจากับผู้บริหารบริษัท หย่าไถ้ และกาสิโนต่างๆ เพื่อบีบในชาวจีนที่ลงจากเครื่องต้องกลับไปที่บริษัทและให้บริษัทยกเลิกกฎนี้ทันที
สำหรับเมืองใหม่จีน หรือซุ่ยโก๊กโก่ บริษัท หย่าไถ้ฯ ได้สัมปทานพื้นที่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) แถบบ้านก๊กโก่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านวังผา ม.4 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด-บ้านใหม่ริมเมย ม.10 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด และบ้านวังแก้ว ม.4 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด รวมเนื้อที่ 30,000 เอเคอร์ เป็นระยะเวลา 50 ปี ต่อสัญญาได้อีก 20 ปี พัฒนาเป็นเมืองใหม่ โดยมีรายงานว่าจะมีการลงทุนไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท พัฒนาเป็นพื้นที่อยู่อาศัย โรงแรมที่พักขนาด 1,200 ห้อง รวมทั้งกาสิโนขนาดใหญ่ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการแบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเขตอุตสาหกรรมขึ้นซึ่งได้มีการดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่องมาตลอดร่วม 2 ปีที่ผ่านมาแล้ว
ล่าสุด กลุ่มหย่าไถ้ยังคงเดินหน้าก่อสร้างอาคารต่างๆ ตามแผนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของบ้านพักอาศัย-อาคารพาณิชย์-โรงแรม เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สถานบันเทิงเต็มรูปแบบ ศูนย์สรรพสินค้า ฯลฯ ซึ่งคาดการว่าหากเมืองใหม่ซุ่ยโก๊กโก่เสร็จสมบูรณ์จะมีชาวจีนเข้ามาอยู่อาศัยมากกว่าพลเมืองใน อ.แม่สอด 4 เท่า หรือไม่น้อยกว่า 400,000 คน และนอกจากเมืองใหม่ซุ่ยโก๊กโก่ดังกล่าวนี้แล้ว เมียวดียังมีกาสิโนของกลุ่มทุนจีนที่เป็นแหล่งรวมชาวจีน ตลอดจนเซียนพนันจากฝั่งไทยอีกร่วม 20 แห่ง ทั้งในพื้นที่ตัวเมือง และริมฝั่งแม่น้ำเมย ตรงข้าม อ.แม่สอด
โดยตั้งแต่ปลายปี 62 เป็นต้นมา มีชาวจีนเดินทางเข้าพื้นที่ชายแดนแม่สอดกันเป็นจำนวนมากนับหมื่นคน เพื่อข้ามฝั่งไปทำงาน-ใช้บริการในพื้นที่เมืองใหม่ซุ่ยโก๊กโก่ รวมถึงกาสิโน โดยบางส่วนถือพาสปอร์ตปลอมเดินทางจากชายแดนกัมพูชาผ่านมาทางอรัญประเทศ เพื่อจะมาชายแดนแม่สอดแล้วข้ามไปพม่า โดยทั้งหมดต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำเอกสารปลอมคนละ 3 หมื่นบาท และว่าจ้างให้คนขับรถตู้รับจ้างคนไทยอีก 9,000 บาท ให้มาส่งที่ชายแดนไทย-พม่า
