กาฬสินธุ์ - ชายวัย 63 ปีสู้ชีวิต เก็บของเก่ามารีไซเคิลเป็นชิ้นงานประติมากรรม ปั้นหุ่นพญาอินทรีย์ขยุ้มงูและมังกรบนต้นไม้สวยงาม ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่เพราะความยากจน ไม่มีที่ทำกิน ซ้ำเมียป่วยไตวาย 8 ปี จึงเกิดแรงบันดาลใจฝึกฝนปั้นหุ่นขาย หารายได้รักษาเมีย
เล่ากันปากต่อปากถึงความสู้ชีวิตของชายวัย 63 ปี ชาวบ้านแดงเจริญศิลป์ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ปั้นหุ่นรูปสัตว์ขายเพื่อหารายได้เป็นค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายรักษาเมียที่ป่วยด้วยโรคไตวายมา 8 ปี สิ่งที่ชาวบ้านทึ่งและชื่นชม คือ ชายคนนี้มีความสามารถในการปั้นหุ่นได้สวยงามเหมือนจริง ทั้งๆ ที่ไม่เคยไปฝึกฝนหรือศึกษาเล่าเรียนด้านงานประติมากรรมมาก่อน
ขณะที่อุปกรณ์ปั้นหุ่นนั้นส่วนใหญ่ได้จากการเก็บของเก่ามารีไซเคิล ผลงานที่ผ่านมามีคนซื้อไปแล้ว 3 ชิ้น ชิ้นละ 5,000 บาท และขณะนี้กำลังลงมือปั้นหุ่นพญาอินทรีย์ขยุ้มงูเหลือม และปั้นหุ่นมังกรเกี้ยวต้นไม้ ชาวบ้านต่างพากันไปชมฝีมือ และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง เพราะทราบจุดประสงค์ของเขาว่าต้องการปั้นหุ่นขายหารายได้เป็นค่าเดินทางรักษาภรรยา
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังเยี่ยมชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ติดพื้น อยู่ท้ายหมู่บ้าน พบชาวบ้านกว่า 10 คน ดูการปั้นหุ่นของชายคนนี้อยู่ ทราบชื่อ “ลุงพิกุล” หรือนายพิกุล ภูคานา อายุ 63 ปี โดยมีนางติ๋ม ศรีตุ้ย อายุ 63 ปี ภรรยาซึ่งสภาพร่างกายอิดโรย ป่วยเป็นโรคไตวาย นั่งให้กำลังใจอยู่ไม่ไกล
ลุงพิกุลกล่าวว่า ตนกับภรรยามีลูกด้วยกัน 2 คน แต่มีครอบครัวและไปขายแรงงานที่กรุงเทพฯ รายได้พอเลี้ยงตัว ตนสูงอายุแล้วจะไปขายแรงงานก็ไม่ไหว และต้องคอยดูแลภรรยาที่ป่วยไตวายมานานถึง 8 ปี ทรัพย์สินที่เคยมีก็ขายเอาเงินรักษาภรรยาจนหมด ทุกวันนี้จึงไม่มีที่ทำกิน ที่ปลูกเรือนอยู่ก็เป็นที่สาธารณะ ผู้นำชุมชนอนุญาตให้เข้ามาอยู่ พอได้อาศัยบังแดดบังฝน หาเลี้ยงชีพด้วยการหาเก็บเศษไม้มาเผาถ่านขาย และตระเวนเก็บของเก่าขายพอได้เงินซื้อข้าวและอาหารประทังชีวิตผัวเมีย
ลุงพิกุลเล่าอีกว่า ปลายปีที่ผ่านมาพาเมียไปรักษาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พบชายชาวเชียงใหม่คนหนึ่งเดินทางมาเยี่ยมญาติ บอกเล่าเรื่องการปั้นหุ่นสัตว์แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้ปูนหรือดินเหนียว แต่ใช้วัสดุประเภทลังกระดาษ โฟม ขี้เลื่อย กาว มาเป็นส่วนผสมสำหรับปั้นหุ่นได้ ตนจึงเกิดแรงบันดาลใจเพราะอยากหารายได้มาจุนเจือครอบครัว จึงลองทำดู ดูตัวอย่างที่คนอื่นทำ ผสมกับจินตนาการที่คิดขึ้นเอง ขั้นแรกไปหาเก็บของเก่า เช่น รากไม้ กิ่งไม้ รูปร่างแปลกๆมาเป็นโครงสร้าง เก็บลังกระดาษ โฟม มาย่อยสลายด้วยน้ำมันเบนซิน ให้มีความเหนียวหรือบางครั้งใช้กาว นำมาผสมขี้เลื่อยที่ป่นจนละเอียด เพื่อปั้นเป็นหุ่นแทนการใช้ปูนหรือดินเหนียว เพื่อความแปลกใหม่ เป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้าที่ชื่นชอบงานฝีมือและไม่ซ้ำแบบใคร
“อาศัยครูพักลักจำ คิดไปทำไป มองหน้าเมียที่เจ็บป่วยไปก็มีกำลังใจฮึดสู้ ทำแบบลองผิดลองถูก โดยงาน 2 ชิ้นแรกปั้นรูปนกอินทรีย์ งานชิ้นที่ 3 เป็นรูปมังกรทอง มีคนมาซื้อไปชิ้นละ 5,000 บาท ได้เงินมาหมื่นกว่าบาท พอได้ค่าซ่อมแซมบ้านที่ทรุดโทรม และทำให้มีกำลังใจมากขึ้น” ลุงพิกุลบอก และเล่าต่อว่า
การปั้นชิ้นที่ 4 ซึ่งได้กิ่งไม้ใหญ่เป็นโครงสร้าง จึงปั้นรูปพญาอินทรีย์ขยุ้มงูเหลือม และหุ่นมังกรเกี้ยวกิ่งไม้ ปั้นให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้น และหวังจะนำรายได้มาเป็นค่ารักษาภรรยาที่เจ็บป่วย ชิ้นนี้ปั้นใกล้เสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงขั้นตอนเก็บรายละเอียดและลงสีเท่านั้น
ด้วยความที่เป็นคนสู้ชีวิต และมั่นคงในความรักต่อเมียที่เจ็บป่วย พยายามปั้นหุ่นพญาอินทรีย์ขยุ้มงูเหลือมและมังกรเกี้ยวต้นไม้ได้อย่างสวยงาม เหมือนจริง ทั้งที่ไม่เคยศึกษาเล่าเรียนจากสถาบันไหน ชาวบ้านต่างชื่นชมในฝีมือ จึงใช้เวลาว่างมาแวะดูและให้กำลังใจตลอดวัน และอยากให้มีคนมาซื้อผลงานในราคาสูงๆ เพื่อลุงพิกุลจะได้เงินมาเป็นค่าเดินทางและค่ารักษาเมียอย่างที่ตั้งใจไว้