ศูนย์ข่าวศรีราชา- ไร้สำนึก! ตร.พนัสนิคม นำกำลังบุกรวบเกรียนคีย์บอร์ดใช้ชื่อ "หนุ่มเมืองชล คนพนัส" โพสต์ข้อความเลียนแบบเหตุรุนแรงใน จ.นครราชสีมา ประกาศหาอาวุธสงครามป่วนเขื่อนขุนด่านปราการชล ถูกจับอ้างโมโหแก๊งรถซิ่ง เจอ 3 ข้อหาหนัก ปรับอ่วมกับพฤติกรรมเลียนแบบ
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "หนุ่มเมืองชล คนพนัส" ได้โพสต์ข้อความลงในโลกสังคมออนไลน์ลักษณะสนับสนุนการก่อเหตุกราดยิงในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช ใจความว่า "เออ ผมใจอำมหิตเลยไร้ความสงสารใครจะทำไม และที่สำคัญอยู่ข้างคนก่ออาชญากรรมที่โหดร้ายด้วย ผมชอบแบบนี้ ขอให้มีอีก 29 ศพ ยังน้อยไป อะเคนะ"
นอกจากนั้น ยังโพสต์ข้อความ "พอดีอยากได้ M16 ผมจะเอาติดรถไปเขื่อนขุนด่านปราการชล ใครหาให้ได้บอกที 555"
โดยหลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกแชร์และส่งต่อทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำอันไม่เหมาะสมในช่วงที่ประเทศชาติและคนในสังคมยังอยู่ในภาวะเสียใจนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (12 ก.พ.) พ.ต.ต.อัครรักษ์ คำศิริรักษ์ สว.(สืบสวน) สภ.พนัสนิคม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เข้าควบคุมตัว นายฐีรวัฒน์ ศรีวิเศษ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นชาว จ.นครราชสีมา หลังได้ทำการตรวจสอบและสืบสวนจนทราบว่าผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 27 ม.5 ต.ไร่หลักทอง อ.พนัสนิคม และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.พนัสนิคม ในทันที
เบื้องต้น นายฐีรวัฒน์ อ้างว่า ทำไปเพราะความโมโหกลุ่มรถซิ่งที่มาจับกลุ่มกันขับรถเร็วจนเกือบชนลูกของตนเองจึงโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กเพื่อระบายความโมโหแต่ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย พร้อมขอโทษกับสิ่งที่กระทำและขอยอมรับผิดทั้งหมด
ขณะที่ พ.ต.ต.อัครรักษ์ กล่าวว่า การกระทำของชายคนดังกล่าวถือว่ามีความผิดเนื่องจากพาดพิงถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน จ.นครราชสีมา ซึ่งการโพสต์ข้อความในเชิงข่มขู่และทำให้ผู้คนตื่นกลัวจะต้องถูกดำเนินคดี
เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาหนัก 3 ข้อหา ประกอบด้วย ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ทำให้เกิดความเสียหาย โดยเอาข้อความอันเป็นเท็จมีโทษปรับ 5 แสนบาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาข่มขู่ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เกี่ยวกับความมั่นคง ต้องโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ จึงขอฝากเตือนประชาชนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์หากโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น ใน จ.นครราชสีมา ในทางที่ผิดหรือคึกคะนองจะมีความผิดตามกฎหมายเช่นเดียวกับการโพสต์ข้อความที่เป็นเท็จในโลกสังคมออนไลน์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน